10. เพราะพวกเขาเผยพระวจนะแก่เจ้าเป็นความเท็จ เพื่อให้เจ้าต้องโยกย้ายไกลไปจากแผ่นดินของเจ้า และเราจะขับไล่เจ้าออกไป และเจ้าจะพินาศ
11. แต่ประชาชาติใดซึ่งเอาคอของตนวางไว้ใต้แอกของกษัตริย์แห่งบาบิโลนและปรนนิบัติเขา เราจะละเขาไว้บนแผ่นดินของเขา เพื่อให้ทำไร่ไถนาและให้อาศัยอยู่ที่นั่น’ พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ”
12. ข้าพเจ้าได้ทูลเศเดคียาห์กษัตริย์ยูดาห์ในทำนองเดียวกันว่า “จงโน้มพระศอของพระองค์ลงใต้แอกของกษัตริย์บาบิโลน และปรนนิบัติพระองค์และประชาชนของพระองค์ และจงมีชีวิตอยู่
13. ทำไมพระองค์กับชนชาติของพระองค์จะมาตายเสียด้วยดาบ ด้วยการกันดารอาหารและด้วยโรคระบาด ดังที่พระยาห์เวห์ทรงลั่นวาจาเกี่ยวกับประชาชาติใดๆ ที่จะไม่ปรนนิบัติกษัตริย์บาบิโลน
14. อย่าฟังถ้อยคำของผู้เผยพระวจนะผู้กล่าวแก่พระองค์ว่า ‘พระองค์จะไม่ปรนนิบัติกษัตริย์บาบิโลน’ เพราะซึ่งเขาทั้งหลายเผยพระวจนะแก่พระองค์นั้นเป็นการมุสา
15. พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราไม่ได้ใช้เขา แต่เขาเผยพระวจนะเท็จในนามของเรา ซึ่งทำให้เราต้องขับไล่เจ้าออกไปและเจ้าจะต้องพินาศ ทั้งตัวเจ้าและผู้เผยพระวจนะทั้งหลายซึ่งเผยพระวจนะให้แก่เจ้า”
16. และข้าพเจ้าก็ได้พูดกับปุโรหิตและประชาชนนี้ทั้งสิ้นว่า “พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า อย่าเชื่อฟังถ้อยคำของผู้เผยพระวจนะของเจ้า ซึ่งเผยพระวจนะให้แก่เจ้าว่า ‘ดูสิ ไม่ช้าเขาจะนำเครื่องใช้ของพระนิเวศแห่งพระยาห์เวห์กลับมาจากกรุงบาบิโลน’ เพราะซึ่งเขาเผยพระวจนะแก่เจ้านั้นเป็นความเท็จ
17. อย่าฟังเขาเลย จงปรนนิบัติกษัตริย์แห่งบาบิโลนและมีชีวิตอยู่ ทำไมจะให้เมืองนี้ถูกทิ้งร้าง?
18. ถ้าเขาเหล่านั้นเป็นผู้เผยพระวจนะ และถ้าพระวจนะของพระยาห์เวห์อยู่กับเขา ก็ขอให้เขาทูลวิงวอนต่อพระยาห์เวห์จอมทัพไม่ให้เครื่องใช้ซึ่งเหลืออยู่ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ และในพระราชวังของกษัตริย์แห่งยูดาห์ และในกรุงเยรูซาเล็ม ถูกนำไปยังบาบิโลน