12. “เมื่อท่านถวายทศางค์จากผลิตผลของท่านเสร็จแล้ว ในปีที่สามซึ่งเป็นปีทศางค์ ท่านจงให้ทศางค์นั้นแก่คนเลวี และคนต่างด้าว ลูกกำพร้า และแม่ม่าย เพื่อพวกเขาจะได้รับประทานให้อิ่มหนำภายในเมืองของท่าน
13. แล้วท่านจงทูลพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านว่า ‘ข้าพระองค์ยกส่วนศักดิ์สิทธิ์ออกจากบ้านของข้าพระองค์แล้ว และยิ่งกว่านั้น ข้าพระองค์ได้ให้แก่คนเลวี คนต่างด้าว ลูกกำพร้า และแม่ม่าย ตามพระบัญญัติซึ่งพระองค์ทรงบัญชาไว้แก่ข้าพระองค์ทุกประการ ข้าพระองค์ไม่ได้ละเมิดพระบัญญัติของพระองค์ และข้าพระองค์ไม่ได้ลืมเลย
14. ข้าพระองค์ไม่ได้รับประทานทศางค์เมื่อไว้ทุกข์ ข้าพระองค์ไม่ได้ยกส่วนใดออกไปเมื่อข้าพระองค์เป็นมลทิน และไม่ได้อุทิศส่วนใดเพื่อผู้ตาย ข้าพระองค์ได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ได้ทำตามทุกสิ่งที่พระองค์ทรงบัญชาไว้
15. ขอพระองค์ทอดพระเนตรจากสถานประทับบริสุทธิ์ของพระองค์ คือจากสวรรค์ และขอทรงอวยพรแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์ และแก่ที่ดินซึ่งพระองค์ประทานแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย ดังที่พระองค์ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของพวกข้าพระองค์ เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์’
16. “วันนี้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงบัญชาท่านให้ทำตามกฎเกณฑ์และกฎหมายเหล่านี้ ฉะนั้นท่านจงระวังที่จะทำตามด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน
17. ในวันนี้ท่านได้ยอมรับแล้วว่า พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าของท่าน และท่านจะดำเนินตามพระมรรคาของพระองค์ และรักษากฎเกณฑ์ พระบัญญัติและกฎหมายของพระองค์ และจะเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์
18. และในวันนี้พระยาห์เวห์ทรงรับว่าท่านเป็นชนชาติที่เป็นของล้ำค่าของพระองค์ ดังที่พระองค์ทรงสัญญาไว้กับท่าน และว่าท่านจะรักษาพระบัญญัติทั้งสิ้นของพระองค์
19. และว่าพระองค์จะทรงตั้งท่านให้สูงเหนือบรรดาประชาชาติซึ่งพระองค์ได้ทรงสร้าง ในเรื่องการสรรเสริญ ชื่อเสียงและเกียรติยศ และให้ท่านเป็นชนชาติบริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ดังที่พระองค์ตรัสแล้ว”