3. และจะกล่าวแก่พวกเขาว่า ‘โอ อิสราเอล จงฟังเถิด วันนี้พวกท่านมาใกล้จะสู้รบกับศัตรูของท่าน อย่าให้ใจของท่านทั้งหลายวิตก อย่ากลัวหรือหวาดหวั่น หรือครั่นคร้ามต่อพวกเขาเลย
4. เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายเสด็จไปกับท่าน ทรงต่อสู้ศัตรูของท่านเพื่อท่าน จะทรงช่วยกู้ท่าน’
5. แล้วพวกนายทหารจะพูดกับประชาชนว่า ‘ใครที่สร้างบ้านใหม่ และยังไม่ได้ทำพิธีถวายบ้านนั้น ให้ผู้นั้นกลับไปบ้านของตน เกรงว่าเขาจะตายเสียในสงคราม และคนอื่นจะถวายบ้านนั้น
6. ใครที่ปลูกสวนองุ่นและยังไม่ได้รับประทานผลจากสวนองุ่นนั้น ให้ผู้นั้นกลับไปบ้าน เกรงว่าเขาจะตายเสียในสงคราม และคนอื่นจะรับประทานผลองุ่นนั้น
7. ใครที่หมั้นหญิงไว้เป็นภรรยาแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน ให้ผู้นั้นกลับไปบ้านของตน เกรงว่าเขาจะตายเสียในสงคราม และชายอื่นจะได้แต่งงานกับเธอ’
8. และพวกนายทหารจะพูดกับประชาชนต่อไปอีกว่า ‘ใครที่กลัวและมีใจวิตก ให้ผู้นั้นกลับไปบ้านของตนเสีย เกรงว่าใจของพี่น้องของเขาจะละลายไปเหมือนกับใจของเขา’
9. เมื่อพวกนายทหารพูดกับประชาชนจบลงแล้ว ก็จงแต่งตั้งผู้บังคับบัญชากองทัพต่างๆ ขึ้นเป็นหัวหน้าประชาชน
10. “เมื่อท่านเข้าไปใกล้เมืองใดเพื่อจะสู้รบ จงร้องขอสันติภาพกับเมืองนั้น
11. ถ้าเขาตอบท่านอย่างสันติและเปิดรับท่าน ก็ให้ประชาชนทั้งหมดที่พบอยู่ในเมืองนั้นเป็นแรงงานเกณฑ์ของท่านและปรนนิบัติท่าน
12. ถ้าเมืองนั้นไม่ทำสันติภาพกับท่าน แต่ทำสงครามกับท่าน ก็ให้ท่านเข้าล้อมตีเมืองนั้น
13. เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานเมืองนั้นไว้ในมือท่านแล้ว ท่านจงฆ่าชายทุกคนเสียด้วยคมดาบ