13. จงเลือกคนที่มีปัญญา มีความรู้และมีชื่อเสียงในเผ่าของพวกท่าน และข้าพเจ้าจะตั้งเขาให้เป็นหัวหน้าของท่าน’
14. ท่านก็ตอบข้าพเจ้าว่า ‘สิ่งที่ท่านกล่าวนั้นดีแล้ว เราควรจะทำ’
15. ข้าพเจ้าจึงเลือกหัวหน้าจากทุกเผ่า ซึ่งเป็นคนมีปัญญาและมีชื่อเสียง ตั้งไว้เป็นหัวหน้าเหนือท่านทั้งหลาย ให้เป็นผู้ปกครองคนพันคนบ้าง ร้อยคนบ้าง ห้าสิบคนบ้าง สิบคนบ้าง และพนักงานต่างๆ ตามเผ่าของท่าน
16. เวลานั้นข้าพเจ้าได้กล่าวกำชับพวกตุลาการของท่านว่า ‘จงพิจารณาคดีของพี่น้องของท่านและตัดสินอย่างยุติธรรมในคดีความระหว่างชายคนหนึ่งกับพี่น้องของตน หรือกับคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่กับเขา
17. ห้ามลำเอียงในการพิพากษา จงฟังทั้งผู้น้อยและผู้ใหญ่ให้เสมอกัน อย่ากลัวหน้ามนุษย์เลย เพราะการพิพากษานั้นเป็นของพระเจ้า และคดีใดที่ยากจงนำมาให้ข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะพิจารณาเอง’
18. เวลานั้นข้าพเจ้าได้สั่งพวกท่านเกี่ยวกับทุกสิ่งที่ท่านควรทำ
19. “พวกเราได้ออกจากโฮเรบ เดินผ่านถิ่นทุรกันดารใหญ่และน่ากลัวตามที่พวกท่านเห็นนั้น เดินไปตามแดนเทือกเขาของคนอาโมไรต์ ดังที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราตรัสสั่งเราไว้ และเรามาถึงคาเดชบารเนีย
20. และข้าพเจ้าได้กล่าวแก่พวกท่านว่า ‘พวกท่านมาถึงแดนเทือกเขาของคนอาโมไรต์แล้ว เป็นที่ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราประทานแก่พวกเรา
21. ดูสิ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงตั้งแผ่นดินนั้นไว้ตรงหน้าท่านแล้ว จงขึ้นไปยึดครองแผ่นดินนั้น ดังที่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่านได้ตรัสกับท่านว่า อย่ากลัวหรืออย่าตกใจเลย’
22. แล้วท่านทุกคนเข้ามาใกล้ข้าพเจ้า พูดว่า ‘ให้เราใช้คนไปล่วงหน้าเรา และสอดแนมดูแผ่นดินนั้นแทนเรา แล้วนำข่าวเรื่องทางที่เราจะต้องขึ้นไป และเรื่องเมืองที่เราจะไปนั้นมาให้เรา’
23. เรื่องนี้ข้าพเจ้าเห็นดีด้วย ข้าพเจ้าจึงเลือกสิบสองคนจากพวกท่านเผ่าละคน