10. เพราะว่าขณะนั้นเลวียังอยู่ในสายเลือดของบรรพบุรุษ คืออับราฮัม ขณะที่เมลคีเซเดคมาพบอับราฮัม
11. ดังนั้น ถ้าความบริบูรณ์บรรลุได้ทางระบบปุโรหิตเผ่าเลวี (เพราะว่าประชาชนได้รับธรรมบัญญัติโดยระบบนี้) ทำไมจะต้องมีปุโรหิตอีกตามแบบอย่างของเมลคีเซเดค ไม่ใช่ตามแบบอย่างของอาโรน?
12. เพราะเมื่อระบบปุโรหิตเปลี่ยนแปลงแล้ว ธรรมบัญญัติก็จำเป็นจะต้องเปลี่ยนไปด้วย
13. เพราะว่าพระองค์ที่เรากล่าวถึงนั้นมาจากเผ่าอื่น ซึ่งเป็นเผ่าที่ยังไม่มีใครเคยทำหน้าที่ปรนนิบัติที่แท่นบูชาเลย
14. เพราะเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงสืบเชื้อสายมาจากเผ่ายูดาห์ และโมเสสก็ไม่เคยกล่าวว่าจะมีปุโรหิตมาจากเผ่านั้นเลย
15. ข้อนี้ประจักษ์ชัดยิ่งขึ้นอีก เมื่อปรากฏว่ามีปุโรหิตอีกผู้หนึ่งตามแบบอย่างของเมลคีเซเดคเกิดขึ้น
16. ผู้ซึ่งเป็นปุโรหิตโดยไม่ได้รับการแต่งตั้งตามธรรมบัญญัติเรื่องเชื้อสาย แต่โดยฤทธิ์เดชแห่งชีวิตอันไม่สามารถจะทำลายได้
17. เพราะมีพยานกล่าวถึงพระองค์ว่า “พระเจ้าตรัสว่า ‘เจ้าจะเป็นปุโรหิตชั่วนิรันดร์ ตามแบบอย่างของเมลคีเซเดค’ ”
18. ในด้านหนึ่ง บัญญัติเดิมนั้นก็ได้ยกเลิกไปเพราะมีจุดอ่อนและไร้ประสิทธิภาพ
19. ในอีกด้านหนึ่ง เนื่องจากธรรมบัญญัตินั้นไม่สามารถทำสิ่งใดให้สมบูรณ์ได้ พระเจ้าจึงทรงให้ความหวังที่ดีกว่านั้น ซึ่งโดยความหวังนั้นเอง เราจึงเข้าใกล้พระเจ้าได้
20. พระเจ้าทรงยืนยันเรื่องนี้โดยคำปฏิญาณของพระองค์ เพราะว่าคนอื่นๆ เข้ารับตำแหน่งปุโรหิตโดยไม่มีคำปฏิญาณเลย
21. แต่พระเยซูทรงเป็นปุโรหิตโดยมีคำปฏิญาณตรัสถึงพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงปฏิญาณ แล้ว และจะไม่ทรงเปลี่ยนพระทัย เจ้าจะเป็นปุโรหิตชั่วนิรันดร์”
22. โดยคำปฏิญาณนี้ พระเยซูจึงทรงเป็นผู้ค้ำประกันพันธสัญญาที่ดีกว่าเก่า
23. ปุโรหิตเผ่าเลวีนั้นมีการสืบตำแหน่งกันหลายคน เพราะความตายขัดขวางไม่ให้พวกเขาปฏิบัติงานได้ตลอดไป
24. แต่พระเยซูองค์นี้ทรงดำรงตำแหน่งปุโรหิตตลอดกาล เพราะพระองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่ชั่วนิรันดร์
25. เพราะเหตุนี้ พระองค์จึงทรงสามารถช่วยคนทั้งหลายที่เข้ามาใกล้พระเจ้าโดยทางพระองค์นั้นอย่างเต็มที่ เพราะว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่ทุกเวลา เพื่อทูลขอเผื่อคนเหล่านั้น
26. มหาปุโรหิตเช่นนี้แหละที่เหมาะสำหรับพวกเรา คือเป็นผู้บริสุทธิ์ ปราศจากอุบาย ไร้มลทิน แยกจากคนบาปทั้งหลาย และอยู่สูงกว่าฟ้าสวรรค์