3. ต่างก็ร้องต่อกันและกันว่า“บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ พระยาห์เวห์จอมทัพแผ่นดินโลกทั้งสิ้นเต็มด้วยพระสิริของพระองค์”
4. แล้วฐานของธรณีประตูทั้งหลายก็สั่นไหวเนื่องด้วยเสียงของผู้ร้อง และพระนิเวศก็เต็มด้วยควัน
5. และข้าพเจ้ากล่าวว่า “วิบัติแก่ข้าพเจ้า เพราะว่าข้าพเจ้าพินาศแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากไม่สะอาดและข้าพเจ้าอยู่ท่ามกลางชนชาติที่ริมฝีปากไม่สะอาด แต่ดวงตาของข้าพเจ้าได้เห็นกษัตริย์ คือพระยาห์เวห์จอมทัพ”
6. แล้วองค์หนึ่งในพวกเสราฟิมบินมาหาข้าพเจ้า ในมือมีถ่านเพลิงซึ่งท่านเอาคีมคีบมาจากแท่นบูชา
7. และท่านแตะต้องปากของข้าพเจ้าพูดว่า “นี่แน่ะ สิ่งนี้ได้แตะต้องริมฝีปากของเจ้าแล้ว ความผิดของเจ้าก็ถูกขจัด และบาปของเจ้าก็ได้รับการลบล้าง”
8. และข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงขององค์เจ้านายตรัสว่า “เราจะใช้ผู้ใดไป? และผู้ใดจะไปแทนพวกเรา? ” แล้วข้าพเจ้าทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่นี่ ขอทรงใช้ข้าพระองค์เถิด”
9. และพระองค์ตรัสว่า “ไปเถอะและกล่าวแก่ชนชาตินี้ว่า‘ฟังแล้วฟังอีก แต่อย่าเข้าใจดูแล้วดูอีก แต่อย่ามองเห็น’
10. จงทำให้ใจของชนชาตินี้มืดทึบและทำให้หูของเขาตึงและทำให้ตาของเขาบอดมิฉะนั้นเขาจะเห็นด้วยตาของเขาได้ยินด้วยหูของเขาและเข้าใจด้วยใจของเขาแล้วหันกลับมาและได้รับการรักษาให้หาย”
11. แล้วข้าพเจ้าว่า “ข้าแต่องค์เจ้านาย นานเท่าไร? ” และพระองค์ตรัสว่า“จนกว่าเมืองทั้งหลายถูกทิ้งร้างไม่มีผู้อยู่อาศัยและบ้านเรือนไม่มีคนแผ่นดินก็ร้างเปล่าอย่างสิ้นเชิง
12. และพระยาห์เวห์ทรงกวาดคนออกไปไกลและที่ที่ถูกทิ้งร้างท่ามกลางแผ่นดินนั้นมีมากมาย
13. และแม้ว่ายังมีเหลืออยู่ในนั้นสักหนึ่งในสิบก็จะต้องถูกไฟเผาอีกเหมือนต้นสนหรือต้นโอ๊กซึ่งเหลืออยู่แต่ตอเมื่อถูกโค่น”ตอของมันคือเมล็ดพันธุ์บริสุทธิ์