8. ‘ดูสิ เราจะทำให้เงาจากดวงอาทิตย์ที่ทอดลงไปเป็นขั้นๆ บนนาฬิกาแดดของอาหัสนั้นย้อนกลับขึ้นมาสิบขั้น’ ” ดวงอาทิตย์ก็ย้อนกลับมาสิบขั้นบนนาฬิกาแดดตามขั้นที่มันได้ผ่านไปแล้ว
9. บทประพันธ์ของเฮเซคียาห์กษัตริย์ของยูดาห์ หลังจากประชวร และทรงมีชีวิตรอดจากการประชวรของพระองค์นั้น มีว่า
10. ข้าพเจ้าว่า เมื่อวันเวลามาถึงวัยฉกรรจ์ข้าพเจ้าจะต้องจากไปยังประตูแดนคนตายข้าพเจ้าถูกตัดขาดจากวันเวลาที่เหลือของชีวิต
11. ข้าพเจ้าว่า ข้าพเจ้าจะไม่เห็นพระยาห์เวห์คือไม่เห็นพระยาห์เวห์ในแผ่นดินของคนเป็นข้าพเจ้าจะไม่ได้มองดูมนุษย์อีกหรืออยู่กับผู้อาศัยในที่ไม่ยั่งยืน
12. ที่อยู่ของข้าพเจ้าถูกรื้อและถอนออกไปจากข้าพเจ้าเหมือนอย่างเต็นท์ของผู้เลี้ยงแกะข้าพเจ้าม้วนชีวิตของข้าพเจ้าเหมือนอย่างคนทอผ้าพระองค์ทรงตัดข้าพเจ้าออกจากหูกจากกลางวันถึงกลางคืน พระองค์ทรงนำข้าพเจ้ามาถึงอวสาน
13. ข้าพเจ้าคิดคำนึง จนรุ่งเช้าเหมือนอย่างสิงโต พระองค์ทรงหักกระดูกทั้งหมดของข้าพเจ้าจากกลางวันถึงกลางคืน พระองค์ทรงนำข้าพเจ้ามาถึงอวสาน
14. ข้าพเจ้าร้องเหมือนนกนางแอ่น เหมือนนกกระเรียนข้าพเจ้าพิลาปเหมือนนกพิราบตาของข้าพเจ้าเหนื่อยล้าด้วยการมองขึ้นเบื้องบนข้าแต่องค์เจ้านาย ข้าพระองค์ถูกบีบบังคับ ขอทรงเป็นหลักประกันของข้าพระองค์
15. แต่ข้าพเจ้าจะพูดอะไรได้ เพราะพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าแล้วและพระองค์เองทรงทำเช่นนั้นข้าพเจ้าดำเนินอย่างสงบเสงี่ยมตลอดปีเดือนของข้าพเจ้าเพราะความขมขื่นในใจของข้าพเจ้า
16. ข้าแต่องค์เจ้านาย มนุษย์ดำรงชีพด้วยสิ่งเหล่านี้และวิญญาณจิตของข้าพระองค์ก็มีชีวิตด้วยสิ่งทั้งหมดนี้ขอทรงให้ข้าพระองค์หายดีและให้ข้าพระองค์มีชีวิตอยู่
17. นี่แน่ะ เพื่อสวัสดิภาพของข้าพระองค์ข้าพระองค์จึงมีความขมขื่นอย่างยิ่งแต่พระองค์ทรงฉุดชีวิตของข้าพระองค์ออกจากหลุมของความพินาศเพราะพระองค์ทรงเหวี่ยงบาปทั้งหมดของข้าพระองค์ไว้ข้างหลังของพระองค์
18. เพราะแดนคนตายขอบพระคุณพระองค์ไม่ได้ความมรณาก็สรรเสริญพระองค์ไม่ได้บรรดาคนที่ลงไปยังหลุมนั้นจะหวังในความซื่อสัตย์ของพระองค์ไม่ได้