13. ดังนั้น พระวจนะของพระยาห์เวห์จึงเป็นเช่นนี้ต่อเขา“คือเป็นเหมือนเสียงพึมพำที่ฟังไม่รู้เรื่องเป็นเหมือนเสียงพร่ำบ่นที่ฟังไม่เข้าใจมีแต่เสียงพร่ำบ่น เสียงพึมพำ”เพื่อว่าพวกเขาจะไปและสะดุดลื่นล้มไปข้างหลังจะแตกหัก และติดบ่วง แล้วถูกจับไป
14. เพราะฉะนั้น ท่านพวกคนชอบเยาะเย้ย จงฟังพระวจนะของพระยาห์เวห์คือพวกผู้ปกครองชนชาตินี้ในกรุงเยรูซาเล็ม
15. เพราะพวกท่านกล่าวว่า “เราได้ทำพันธสัญญากับความตายแล้วและเราได้ทำข้อตกลงกับแดนคนตายเมื่อภัยพิบัติไหลบ่าลงมามันจะไม่มาถึงเราเพราะเราทำให้ความเท็จเป็นที่หลบภัยของเราและเราถูกกำบังไว้ด้วยการโกหก”
16. เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์ องค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่า“นี่แน่ะ เราวางศิลาก้อนหนึ่งในศิโยนคือศิลาที่ทดสอบแล้วเป็นศิลามุมเอกล้ำค่า เป็นรากฐานมั่นคง‘เขาผู้นั้นที่วางใจจะไม่เร่งร้อน’
17. และเราจะตั้งความยุติธรรมเป็นเชือกวัดและความชอบธรรมเป็นลูกดิ่งแล้วลูกเห็บจะกวาดความเท็จอันเป็นที่หลบภัยไปเสียและน้ำจะไหลบ่าล้นที่กำบัง”
18. แล้วพันธสัญญาของพวกท่านกับความตายจะเป็นโมฆะและข้อตกลงของท่านกับแดนคนตายจะไม่ดำรงอยู่เมื่อภัยพิบัติไหลบ่าลงมาพวกท่านจะถูกมันเหยียบย่ำ
19. มันไหลผ่านไปบ่อยเพียงไร มันก็จะพาตัวท่านไปบ่อยเพียงนั้นเพราะมันจะไหลผ่านไปเช้าแล้วเช้าเล่าทั้งกลางวันและกลางคืนและจะมีแต่ความสยดสยองเมื่อเข้าใจเรื่องราว
20. เพราะที่นอนนั้นสั้นเกินกว่าจะเหยียดตัวบนนั้นและผ้าห่มก็เล็กเกินกว่าจะคลุมตัว
21. เพราะพระยาห์เวห์จะทรงลุกขึ้นเหมือนที่ภูเขาเปริซิมพระองค์จะกริ้วเหมือนที่หุบเขากิเบโอนเพื่อทำพระราชกิจของพระองค์ อันเป็นพระราชกิจที่แปลกและเพื่อทำงานของพระองค์ อันเป็นงานที่ประหลาด
22. ดังนั้น อย่าเป็นคนชอบเยาะเย้ยมิฉะนั้นโซ่ตรวนของท่านจะแน่นยิ่งขึ้นเพราะข้าพเจ้าได้ยินจากพระยาห์เวห์องค์เจ้านายผู้ทรงเป็นจอมทัพเรื่องกฤษฎีกาทำลายล้างอย่างสิ้นเชิงทั้งแผ่นดิน
23. จงเงี่ยหู แล้วฟังเสียงข้าพเจ้าจงใส่ใจ แล้วฟังคำข้าพเจ้า
24. คนไถนาเพื่อหว่าน จะไถตลอดไปหรือ?เขาเบิกหน้าดินและคราดดินตลอดไปหรือ?
25. เมื่อเขาปราบผิวดินแล้วจะไม่หว่านต้นเทียนแดงและยี่หร่าหรือ?เขาไม่ปลูกข้าวสาลีเป็นแถวและปลูกข้าวบาร์เลย์ในที่ของมันทั้งปลูกข้าวสเปลต์ไว้ตามขอบหรือ?