21. และฐานเงินรองรับเดือยสี่สิบฐาน ใต้กรอบไม้แต่ละอันจะมีฐานรองรับเดือยสองฐาน
22. ส่วนด้านหลังของพลับพลาข้างทิศตะวันตก เจ้าจงทำกรอบไม้หกอัน
23. และทำอีกสองอันสำหรับมุมพลับพลาด้านหลัง
24. ข้างล่างของกรอบให้จับเป็นคู่ๆ โดยตอนบนยอดให้ติดกันที่ห่วงแรก ทั้งสองแห่งให้ทำเช่นเดียวกัน ก็จะทำให้เกิดมุมสองมุม
25. ดังนั้นจะมีกรอบไม้แปดอันพร้อมกับฐานเงินรองรับเดือยสิบหกฐาน ใต้กรอบไม้แต่ละอันมีฐานรองรับอยู่สองฐาน
26. “เจ้าจงทำกลอนห้าอันจากไม้กระถินเทศสำหรับกรอบไม้ฝาพลับพลาด้านหนึ่ง
27. และอีกห้าอันสำหรับกรอบไม้ฝาพลับพลาอีกด้านหนึ่ง และสุดท้ายอีกห้าอันสำหรับกรอบไม้ฝาพลับพลาด้านหลัง คือด้านตะวันตก
28. กลอนอันกลางซึ่งอยู่ตอนกลางของกรอบไม้นั้นให้ร้อยติดกันจากปลายด้านหนึ่งถึงปลายอีกด้านหนึ่ง
29. เจ้าจงหุ้มกรอบไม้เหล่านั้นด้วยทองคำ และทำห่วงทองคำสำหรับร้อยกลอน และเจ้าจงหุ้มกลอนเหล่านั้นด้วยทองคำ
30. และเจ้าจงตั้งพลับพลานั้นตามรูปแบบที่เราแจ้งแก่เจ้าแล้วบนภูเขา
31. “จงทำม่านผืนหนึ่ง ทอด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และด้วยผ้าป่านเนื้อดี เจ้าจงปักภาพเครูบที่ออกแบบไว้ที่ม่านนั้น
32. และเจ้าจงแขวนม่านนั้นด้วยขอทองคำไว้ที่เสาไม้กระถินเทศสี่เสาที่หุ้มด้วยทองคำ และที่ตั้งอยู่บนฐานเงินสี่ฐาน
33. และเจ้าจงแขวนม่านนั้นไว้กับขอสำหรับเกี่ยวม่าน แล้วเอาหีบแห่งสักขีพยานเข้ามาไว้ข้างในหลังม่าน และม่านนั้นจะแบ่งพลับพลาเป็นสองส่วนคือ วิสุทธิสถานกับอภิสุทธิสถาน
34. และเจ้าจงตั้งพระที่นั่งกรุณานั้นไว้บนหีบแห่งสักขีพยานในอภิสุทธิสถาน
35. และเจ้าจงตั้งโต๊ะขนมปังเฉพาะพระพักตร์ไว้ข้างนอกม่าน และจงตั้งคันประทีปไว้ตรงข้ามกับโต๊ะนั้นทางด้านใต้ของพลับพลา เจ้าจงตั้งโต๊ะไว้ทางด้านเหนือ
36. “เจ้าจงทำม่านบังตาที่ประตูเต็นท์นั้นด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และด้วยผ้าป่านเนื้อดี ตกแต่งด้วยงานปัก