6. เมื่อเปิดตะกร้าออกก็เห็นทารก และดูสิ เด็กนั้นกำลังร้องไห้ พระนางทรงสงสาร ตรัสว่า “นี่เป็นลูกคนฮีบรู”
7. พี่สาวเด็กนั้นจึงทูลถามพระราชธิดาของฟาโรห์ว่า “จะให้หม่อมฉันไปหาแม่นมชาวฮีบรูมาเลี้ยงทารกนี้ให้พระนางไหม?”
8. พระราชธิดาของฟาโรห์จึงมีรับสั่งว่า “ไปหาเถิด”หญิงสาวคนนั้นจึงไปเรียกมารดาของทารกมา
9. พระราชธิดาของฟาโรห์ตรัสสั่งนางว่า “รับเด็กนี้ไปเลี้ยงไว้ให้เรา แล้วเราจะให้ค่าจ้าง” นางจึงรับทารกไปเลี้ยง
10. เมื่อทารกเติบโตขึ้น นางก็พามาถวายพระราชธิดาของฟาโรห์ พระนางก็ทรงรับไว้เป็นพระราชบุตรของพระนาง และประทานนามให้ว่า โมเสส ตรัสว่า “เพราะเราได้ฉุดขึ้นมาจากน้ำ”
11. เมื่อโมเสสโตขึ้น ท่านไปหาพวกพี่น้อง เห็นพวกเขาต้องทำงานหนัก โมเสสเห็นคนอียิปต์คนหนึ่งกำลังตีคนฮีบรู ซึ่งเป็นชนชาติเดียวกับตน
12. ท่านมองซ้ายมองขวาเห็นว่าไม่มีใครอยู่ จึงฆ่าคนอียิปต์นั้น แล้วซ่อนศพไว้ในทราย
13. เมื่อโมเสสออกไปอีกในวันรุ่งขึ้น ก็เห็นคนฮีบรูสองคนต่อสู้กันอยู่ จึงตักเตือนคนที่ทำผิดนั้นว่า “ท่านตีพี่น้องของท่านเองทำไม?”
14. เขาตอบว่า “ใครตั้งเจ้าให้เป็นเจ้านายและเป็นตุลาการปกครองเรา? เจ้าตั้งใจจะฆ่าตัวข้าเหมือนที่ได้ฆ่าคนอียิปต์คนนั้นหรือ?”โมเสสก็กลัว คิดว่า “เรื่องนั้นคงรู้กันทั่วแล้วแน่ๆ”
15. เมื่อฟาโรห์ทรงทราบเรื่องก็หาช่องทางประหารโมเสส แต่โมเสสหนีฟาโรห์ไปอยู่ในแผ่นดินมีเดียน เขานั่งลงที่ริมบ่อน้ำแห่งหนึ่ง
16. ปุโรหิตของคนมีเดียนมีบุตรหญิงเจ็ดคน หญิงเหล่านั้นพากันมาตักน้ำใส่รางให้ฝูงแพะแกะของบิดากิน
17. เวลานั้นมีพวกคนเลี้ยงแกะมาไล่หญิงเหล่านั้น โมเสสจึงลุกขึ้นช่วยพวกนาง และให้สัตว์ของพวกนางกินน้ำ
18. เมื่อหญิงเหล่านั้นกลับไปหาเรอูเอลผู้เป็นบิดา ท่านถามว่า “วันนี้ทำไมพวกเจ้าจึงกลับเร็วนัก?”