40. แต่เดี๋ยวนี้พวกท่านหาโอกาสฆ่าเราซึ่งเป็นผู้บอกท่านถึงสัจจะที่เราได้ยินมาจากพระเจ้า อับราฮัมไม่ได้ทำอย่างนี้
41. พวกท่านทำสิ่งที่พ่อของท่านทำ” เขาทูลพระองค์ว่า “เราไม่ได้เกิดจากการล่วงประเวณี เรามีพระบิดาองค์เดียวคือพระเจ้า”
42. พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ถ้าพระเจ้าเป็นพระบิดาของพวกท่านแล้ว ท่านก็จะรักเรา เพราะเรามาจากพระเจ้าและอยู่นี่แล้ว เราไม่ได้มาตามใจชอบของเราเอง แต่พระองค์ทรงใช้เรามา
43. ทำไมพวกท่านถึงไม่เข้าใจถ้อยคำที่เราพูด? นี่เป็นเพราะท่านทนฟังคำสอนของเราไม่ได้
44. พวกท่านมาจากพ่อของท่านคือมาร และท่านอยากจะทำตามความปรารถนาของพ่อ มันเป็นฆาตกรตั้งแต่เริ่มแรกและไม่ได้ตั้งอยู่ในสัจจะ เพราะมันไม่มีสัจจะ เมื่อมันพูดเท็จมันก็พูดตามสันดานของมันเอง เพราะมันเป็นผู้มุสา และเป็นพ่อของการมุสา
45. แต่พวกท่านไม่เชื่อเราเพราะเราพูดความจริง
46. มีใครในพวกท่านที่อาจชี้ให้เห็นว่าเรามีบาป? ถ้าเราพูดความจริง ทำไมท่านถึงไม่เชื่อเรา?
47. คนที่มาจากพระเจ้าก็ย่อมฟังพระดำรัสของพระเจ้า พวกท่านไม่ได้มาจากพระเจ้า เพราะเหตุนี้พวกท่านจึงไม่ฟัง”
48. พวกยิวทูลตอบพระองค์ว่า “ที่เราพูดว่าท่านเป็นชาวสะมาเรียและมีผีสิงนั้นไม่จริงหรือ?”
49. พระเยซูตรัสตอบว่า “เราไม่มีผีสิง แต่เราถวายพระเกียรติแด่พระบิดาของเรา และพวกท่านลบหลู่เกียรติของเรา
50. เราไม่ได้แสวงหาเกียรติของเราเอง แต่มีผู้แสวงหาให้และพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงพิพากษา
51. เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า ถ้าใครประพฤติตามคำสอนของเรา คนนั้นจะไม่ประสบความตายเลย”
52. พวกยิวทูลพระองค์ว่า “เดี๋ยวนี้เรารู้แล้วว่าท่านมีผีสิง อับราฮัมตายไปแล้วและพวกผู้เผยพระวจนะก็ตายไปแล้วเหมือนกัน แต่ท่านพูดว่า ‘ถ้าใครประพฤติตามคำสอนของเรา คนนั้นจะไม่ตายเลย’
53. ท่านยิ่งใหญ่กว่าอับราฮัมบิดาของเราที่ตายไปแล้วหรือ? พวกผู้เผยพระวจนะก็ตายไปแล้วเหมือนกัน ท่านจะอวดอ้างว่าท่านเป็นใคร?”