8. เมื่อพระองค์เสด็จมาแล้ว พระองค์จะทรงทำให้โลกรู้แจ้งในเรื่องความบาป ความชอบธรรม และการพิพากษา
9. ในเรื่องความบาปนั้น คือเพราะพวกเขาไม่วางใจในเรา
10. ในเรื่องความชอบธรรมนั้น คือเพราะเราไปหาพระบิดา และพวกท่านจะไม่เห็นเราอีก
11. ในเรื่องการพิพากษานั้น คือเพราะผู้ครองโลกนี้ถูกพิพากษาแล้ว
12. “เรายังมีอีกหลายสิ่งที่จะบอกกับพวกท่าน แต่ตอนนี้ท่านยังรับไม่ไหว
13. เมื่อพระวิญญาณแห่งความจริงเสด็จมาแล้ว พระองค์จะนำพวกท่านไปสู่ความจริงทั้งมวล เพราะพระองค์จะไม่ตรัสโดยพลการ แต่พระองค์จะตรัสสิ่งที่พระองค์ทรงได้ยิน และพระองค์จะทรงแจ้งแก่พวกท่านถึงสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น
14. พระองค์จะทรงให้เราได้รับเกียรติ เพราะว่าพระองค์จะทรงเอาสิ่งที่เป็นของเรามาแจ้งแก่พวกท่าน
15. ทุกสิ่งที่พระบิดาทรงมีนั้นเป็นของเรา เพราะเหตุนี้ เราจึงกล่าวว่า พระวิญญาณทรงเอาสิ่งที่เป็นของเรานั้นมาแจ้งแก่พวกท่าน
16. “อีกหน่อยพวกท่านจะไม่เห็นเรา และต่อไปอีกหน่อย พวกท่านก็จะเห็นเรา”
17. สาวกของพระองค์บางคนพูดกันว่า “พระองค์หมายความว่าอะไรที่ตรัสกับเราว่า ‘อีกหน่อยพวกท่านจะไม่เห็นเรา และต่อไปอีกหน่อยพวกท่านก็จะเห็นเรา’ และ ‘เพราะเราไปถึงพระบิดา’ ”
18. พวกเขาพูดกันว่า “ ‘อีกหน่อย’ นั้นหมายความว่าอะไร? เราไม่ทราบว่า ‘อีกหน่อย’ ที่พระองค์ตรัสนั้น หมายความว่าอะไร”
19. พระเยซูทรงทราบว่าพวกเขาอยากทูลถามพระองค์ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “พวกท่านถามกันอยู่หรือว่าเราหมายความว่าอะไรที่พูดว่า ‘อีกหน่อยพวกท่านจะไม่เห็นเรา และต่อไปอีกหน่อยพวกท่านก็จะเห็นเรา?’
20. เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า ท่านจะร้องไห้และคร่ำครวญ แต่โลกจะชื่นชมยินดี พวกท่านจะเป็นทุกข์ แต่ความทุกข์ของท่านจะกลับกลายเป็นความชื่นชมยินดี