11. แล้วมารจึงไปจากพระองค์ และมีพวกทูตสวรรค์มาปรนนิบัติพระองค์
12. เมื่อพระเยซูทรงทราบข่าวว่ายอห์นถูกจองจำแล้ว พระองค์ก็เสด็จไปยังแคว้นกาลิลี
13. แล้วทรงย้ายที่ประทับจากเมืองนาซาเร็ธไปที่เมืองคาเปอรนาอุม ซึ่งอยู่ริมทะเลสาบในเขตของเผ่าเศบูลุนและนัฟทาลี
14. เพื่อที่จะให้สำเร็จตามพระวจนะ ซึ่งตรัสผ่านทางอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะว่า
15. “แคว้นเศบูลุนและแคว้นนัฟทาลี ที่อยู่บนทางไปยังทะเล และฝั่งแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น กาลิลีของพวกต่างชาติ
16. ประชาชนผู้นั่งอยู่ในความมืด ได้เห็นความสว่างยิ่งใหญ่ และผู้ที่นั่งอยู่ในแดนและเงาแห่งความตาย ก็มีความสว่างส่องถึงพวกเขาแล้ว”
17. ตั้งแต่นั้นมา พระเยซูทรงตั้งต้นประกาศว่า “จงกลับใจใหม่ เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์มาใกล้แล้ว”
18. ขณะที่พระองค์ทรงดำเนินอยู่ตามชายทะเลกาลิลี ก็ทอดพระเนตรเห็นพี่น้องชาวประมงสองคน คือซีโมนที่เรียกว่าเปโตร กับอันดรูว์น้องชายของเขา กำลังทอดแหอยู่ในทะเลสาบ
19. พระองค์ตรัสกับเขาทั้งสองว่า “จงตามเรามา และเราจะตั้งท่านให้เป็นผู้หาคนดั่งหาปลา”
20. เขาจึงละทิ้งแหตามพระองค์ไปทันที
21. เมื่อพระองค์เสด็จต่อไป ก็ทรงเห็นพี่น้องอีกสองคน ชื่อยากอบ บุตรเศเบดี กับยอห์นน้องชายของเขากำลังชุนอวนอยู่ในเรือกับเศเบดีผู้เป็นบิดา พระองค์ก็ทรงเรียกพวกเขา
22. พวกเขาจึงละทิ้งเรือและลาบิดาของพวกเขาตามพระองค์ไปทันที
23. พระเยซูได้เสด็จไปทั่วแคว้นกาลิลี ทรงสั่งสอนในธรรมศาลาของพวกเขา ทรงประกาศข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า และทรงรักษาบรรดาโรคภัยไข้เจ็บของชาวเมืองให้หาย
24. กิตติศัพท์ของพระองค์ก็เลื่องลือไปทั่วประเทศซีเรีย พวกเขาจึงพาคนทั้งหลายที่เจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ พวกที่เจ็บปวดทรมาน พวกที่ถูกผีเข้า พวกที่เป็นลมบ้าหมูและเป็นอัมพาตมาหาพระองค์ พระองค์ก็ทรงรักษาเขาให้หาย
25. และมีมหาชนติดตามพระองค์ซึ่งมาจากแคว้นกาลิลี แคว้นทศบุรี กรุงเยรูซาเล็ม แคว้นยูเดีย และแม่น้ำจอร์แดนฟากตะวันออก