6. แต่คนอิสราเอลสงสารเบนยามินน้องของตน กล่าวว่า “วันนี้เผ่าหนึ่งถูกตัดออกจากอิสราเอลเสียแล้ว
7. เราจะทำอย่างไรเรื่องหาภรรยาให้คนที่ยังเหลืออยู่? เพราะเราได้ปฏิญาณในพระนามพระยาห์เวห์แล้ว ว่าเราจะไม่ยกบุตรหญิงของเราให้เป็นภรรยาของเขา”
8. เขาทั้งหลายถามขึ้นว่า “คนใดในเผ่าอิสราเอลที่ไม่ได้ขึ้นมาเฝ้าพระยาห์เวห์ที่มิสปาห์?” นี่แน่ะ ไม่มีคนจากยาเบชกิเลอาดมาประชุมที่ค่ายเลยสักคนเดียว
9. เพราะเมื่อเขานับประชาชนนั้น นี่แน่ะ ไม่มีชาวเมืองยาเบชกิเลอาดอยู่ที่นั่นเลย
10. ดังนั้นชุมนุมชนจึงส่งทหารผู้กล้าหาญ 12,000 คน แล้วบัญชาพวกเขาว่า “จงไปฆ่าชาวยาเบชกิเลอาดเสียด้วยคมดาบทั้งผู้หญิงและเด็ก
11. เจ้าทั้งหลายจงทำอย่างนี้คือ ผู้ชายทุกคนและผู้หญิงทุกคนที่ได้หลับนอนกับผู้ชายแล้ว จงทำลายพวกเขาถวายพระเจ้า”
12. ในหมู่ชาวยาเบชกิเลอาดนั้นพวกเขาพบหญิงพรหมจารี 400 คนผู้ยังไม่ได้ร่วมหลับนอนกับผู้ชายเลย จึงได้พาหญิงเหล่านั้นมายังค่ายที่ชิโลห์ซึ่งอยู่ในแผ่นดินคานาอัน
13. ชุมนุมชนทั้งหมดก็ส่งข่าวบอกคนเบนยามินซึ่งอยู่ที่ศิลาริมโมนว่า สงครามยุติแล้ว
14. คนเบนยามินก็กลับมาในคราวนั้น แล้วคนอิสราเอลก็มอบผู้หญิงที่พวกเขาไว้ชีวิตในหมู่ผู้หญิงแห่งยาเบชกิเลอาดแก่คนเบนยามิน แต่ก็ไม่พอแก่กัน
15. ประชาชนก็สงสารเบนยามิน เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงทำให้เกิดช่องว่างในเผ่าอิสราเอล
16. พวกผู้ใหญ่ของชุมนุมชนนั้นจึงกล่าวว่า “เนื่องจากพวกผู้หญิงในเบนยามินถูกทำลายล้างจนสิ้น เราจะทำอย่างไรเรื่องหาภรรยาให้คนที่ยังเหลืออยู่?”
17. เขาทั้งหลายกล่าวว่า “ต้องมีมรดกให้แก่คนเบนยามินที่รอดตาย เพื่อว่าคนเผ่าหนึ่งจะไม่ถูกลบออกจากอิสราเอล