ปัญญาจารย์ 2:12-17 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

12. ข้าพ‌เจ้า​จึง​หัน​มา​พิ‌เคราะห์​สติ​ปัญญา ความ​บ้า‍บอ และ​ความ​เขลา เพราะ​คน​ที่​มา​ภาย‍หลัง​กษัตริย์​จะ​ทำ​อะไร​ได้? นอก‍จาก​ทำ​สิ่ง​ที่​เขา​ทำ​กัน​มา​นาน​แล้ว​นั้น

13. ข้าพ‌เจ้า​เห็น​ว่า​สติ​ปัญญา​มี​ประ‌โยชน์​กว่า​ความ​เขลา เหมือน​ความ​สว่าง​มี​ประ‌โยชน์​กว่า​ความ​มืด

14. คน​มี​สติ​ปัญญา​รู้​ว่า​จะ​เดิน​ไป​ทาง​ไหน แต่​คน​เขลา​เดิน​ใน​ความ​มืด ถึง‍กระ‌นั้น​ข้าพ‌เจ้า​ก็​ตระ‌หนัก​ว่า เคราะห์​อย่าง​เดียว‍กัน​เกิด‍ขึ้น​แก่​พวก‍เขา​ทุก‍คน

15. ข้าพ‌เจ้า​จึง​รำพึง​ว่า “เคราะห์​ที่​เกิด​แก่​คน​เขลา ก็​จะ​เกิด​กับ​ตัว​ข้าพ‌เจ้า​ด้วย ถ้า​เช่น​นั้น​แล้ว​ข้าพ‌เจ้า​จะ​มี​สติ​ปัญญา​มาก‍มาย​ไป​ทำไม​เล่า?” ข้าพ‌เจ้า​จึง​รำพึง​ว่า​เรื่อง​นี้​ก็​อนิจ‌จัง​เหมือน‍กัน

16. เพราะ​ไม่‍มี​ใคร​จด‍จำ​ถึง​คน​มี​สติ​ปัญญา​และ​คน​เขลา​ตลอด‍ไป เพราะ​เมื่อ‍ถึง‍เวลา​ใน​อนา‌คต​ก็​ลืม​กัน​ไป​หมด​แล้ว โถ คน​มี​สติ​ปัญญา​ก็​ตาย​เหมือน​คน​เขลา

17. ข้าพ‌เจ้า​จึง​เกลียด​ชีวิต เพราะ​ว่า​การ‍งาน​ที่​ทำ​กัน​ภาย‍ใต้​ดวง‍อา‌ทิตย์​ก่อ​ความ​สลด‍ใจ​ให้​แก่​ข้าพ‌เจ้า เพราะ​สาร‌พัด​ก็​อนิจ‌จัง​คือ กิน‍ลม‍กิน‍แล้ง

ปัญญาจารย์ 2