6. อิสราเอลจึงว่า “ทำไมพวกเจ้าทำสิ่งเลวร้ายต่อพ่อที่ไปบอกท่านว่าพวกเจ้ามีน้องชายอีกคนหนึ่ง?”
7. พวกเขาจึงตอบว่า “เจ้านายท่านซักไซ้ไต่ถามถึงพวกลูก และญาติพี่น้องของพวกลูกว่า ‘บิดาเจ้ายังมีชีวิตอยู่หรือ? เจ้ามีน้องอีกคนหนึ่งหรือเปล่า?’ พวกลูกก็ตอบตามคำถามเหล่านั้น จะรู้ได้อย่างไรว่าท่านจะสั่งว่า ‘พาน้องของพวกเจ้าลงมา’ ”
8. ยูดาห์จึงพูดกับอิสราเอลบิดาของเขาว่า “ขอพ่อให้เด็กนั้นไปกับลูก เราจะได้ออกเดินทางไปเพื่อจะได้มีชีวิตต่อไปและไม่ตาย ทั้งพวกลูกและพ่อกับเด็กๆ ของเราด้วย
9. ลูกจะเป็นตัวประกันแทนน้องคนนี้ พ่อให้ลูกรับผิดชอบได้ ถ้าลูกไม่นำเขากลับมาหาพ่อ และส่งเขาต่อหน้าพ่อ ก็ขอให้ลูกรับผิดต่อพ่อตลอดชีวิต
10. ถ้าพวกลูกไม่ล่าช้าอยู่เช่นนี้ ก็คงจะได้กลับมาสองครั้งแล้ว”
11. ฝ่ายอิสราเอลบิดาจึงบอกบุตรชายทั้งหลายว่า “ถ้าอย่างนั้นให้ทำดังนี้คือ เอาผลิตผลอย่างดีที่มีในดินแดนนี้คือ พิมเสนบ้าง น้ำผึ้งบ้าง ยางไม้และเปลือกไม้ชะมด ถั่วพิสทาชิโอ และอัลมอนด์ ใส่ภาชนะและลงไปให้เป็นของกำนัลแก่ท่าน
12. เอาเงินไปสองเท่า คือเงินที่ติดมาในปากกระสอบนั้น ก็ให้เอากลับไปคืนด้วย เพราะบางทีเขาผิดพลาดไป
13. ลุกขึ้นและพาน้องชายของเจ้ากลับไปหาเจ้านายท่าน
14. ขอพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ทรงให้เจ้านายท่านกรุณาแก่พวกเจ้า และปล่อยพี่ชายกับเบนยามินกลับมา ถ้าพ่อจะต้องโศกเศร้าเพราะต้องเสียลูก ก็ต้องเป็นตามนั้น”
15. คนเหล่านั้นก็เอาของกำนัลและเงินสองเท่าติดมือไปพร้อมกับเบนยามิน แล้วลุกขึ้นลงไปยังอียิปต์ และยืนอยู่ต่อหน้าโยเซฟ
16. เมื่อโยเซฟเห็นเบนยามินมากับพวกเขา จึงสั่งผู้ดูแลบ้านของท่านว่า “จงพาคนเหล่านี้เข้าไปในบ้าน ให้ฆ่าสัตว์และจัดโต๊ะไว้ เพราะคนเหล่านี้จะมารับประทานด้วยกันกับเราในเวลาเที่ยง”