6. โยเซฟเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ท่านเป็นผู้ขายข้าวให้แก่ประชาชนทุกคนในแผ่นดิน พวกพี่ชายของโยเซฟก็มาโน้มตัวลงซบหน้าถึงดินคำนับท่าน
7. เมื่อโยเซฟเห็นพวกพี่ชายของท่านก็จำได้ แต่ทำเป็นไม่รู้จัก และพูดจาดุดันกับพวกเขา ท่านถามพวกเขาว่า “พวกเจ้ามาจากไหน?” เขาตอบว่า “มาจากดินแดนคานาอันเพื่อซื้ออาหาร”
8. โยเซฟจำพวกพี่ชายได้ แต่พวกพี่ชายจำท่านไม่ได้
9. โยเซฟระลึกถึงความฝันที่เคยฝันถึงพวกเขา ท่านกล่าวแก่พวกพี่ชายว่า “พวกเจ้าเป็นสายลับ แอบมาดูความอ่อนแอของแผ่นดิน”
10. พวกเขาจึงตอบว่า “นายเจ้าข้า ไม่ใช่อย่างนั้น พวกผู้รับใช้ของท่านมาซื้ออาหาร
11. ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นบุตรร่วมบิดาเดียวกัน เป็นคนซื่อสัตย์ พวกผู้รับใช้ของท่านไม่ใช่สายลับ”
12. โยเซฟบอกเขาอีกว่า “ไม่จริง พวกเจ้ามาดูความอ่อนแอของดินแดนนี้”
13. พวกเขาจึงตอบว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายผู้รับใช้ของท่านเป็นพี่น้องสิบสองคน เป็นบุตรร่วมบิดาเดียวกัน อยู่ในดินแดนคานาอัน ตอนนี้น้องสุดท้องยังอยู่กับบิดา แต่น้องอีกคนหนึ่งเสียชีวิตแล้ว”
14. โยเซฟตอบพวกเขาว่า “ที่ข้าว่าพวกเจ้าเป็นสายลับนั้นจริงแน่ๆ
15. ข้าจะทดลองพวกเจ้าดังนี้ โดยพระชนม์ฟาโรห์ พวกเจ้าจะไปจากที่นี่ไม่ได้ เว้นแต่น้องสุดท้องมาที่นี่
16. พวกเจ้าต้องอยู่ในคุกก่อน ให้คนหนึ่งในพวกเจ้าไปพาน้องมา เพื่อพิสูจน์ถ้อยคำของเจ้าว่า เจ้าพูดจริงหรือไม่ มิฉะนั้นโดยพระชนม์ฟาโรห์ พวกเจ้าเป็นสายลับแน่”
17. แล้วโยเซฟก็ขังพวกพี่ชายไว้ด้วยกันในคุกสามวัน
18. ในวันที่สามโยเซฟบอกพวกเขาว่า “ทำดังนี้แล้วจะรอดชีวิต เพราะข้ายำเกรงพระเจ้า
19. ถ้าพวกเจ้าเป็นคนซื่อสัตย์ จงให้คนหนึ่งในพวกเจ้าถูกขังอยู่ในคุก คนอื่นนำข้าวไปเพื่อบรรเทาการกันดารอาหารที่บ้านของพวกเจ้า
20. แล้วพาน้องสุดท้องมาหาเรา ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าพวกเจ้าพูดจริง แล้วพวกเจ้าจะไม่ตาย” พวกพี่ชายก็ทำตาม
21. พวกพี่ชายจึงพูดกันว่า “สมควรแล้วที่เรามีความผิดเรื่องน้องของเรา เพราะเราได้เห็นความทุกข์ใจของน้องเมื่อเขาอ้อนวอนเรา แต่เราไม่ฟัง เพราะฉะนั้นความทุกข์ใจครั้งนี้จึงเกิดแก่เรา”
22. ฝ่ายรูเบนพูดกับน้องทั้งหลายว่า “ข้าบอกพวกเจ้าไม่ใช่หรือ ว่าอย่าทำบาปต่อเด็กนั้น? แต่พวกเจ้าไม่ฟัง เพราะฉะนั้นการตอบแทนเรื่องโลหิตของน้องจึงมาถึง”