4. ขอพระองค์ประทานพรของอับราฮัมแก่เจ้า และแก่เชื้อสายของเจ้าด้วย เพื่อเจ้าจะได้ดินแดนซึ่งเจ้าอาศัยอยู่นี้เป็นกรรมสิทธิ์ ซึ่งพระเจ้าประทานแก่อับราฮัม”
5. อิสอัคก็ส่งยาโคบไป ยาโคบก็ไปปัดดานอารัม ไปหาลาบัน บุตรชายของเบธูเอลคนอารัมพี่ชายของเรเบคาห์ มารดาของยาโคบและเอซาว
6. ฝ่ายเอซาวเห็นว่าอิสอัคอวยพรยาโคบ และส่งเขาไปยังปัดดานอารัมเพื่อหาภรรยาจากที่นั่น และเมื่ออิสอัคอวยพรเขานั้นท่านกำชับเขาว่า “เจ้าอย่าแต่งงานกับหญิงคานาอัน”
7. ยาโคบเชื่อฟังบิดามารดา และไปยังปัดดานอารัม
8. เมื่อเอซาวเห็นว่าหญิงคานาอันไม่เป็นที่พอใจอิสอัคบิดาของเขา
9. จึงไปหาอิชมาเอลและรับมาหะลัทบุตรหญิงของอิชมาเอลบุตรชายของอับราฮัม น้องสาวของเนบาโยทมาเป็นภรรยา นอกเหนือภรรยาซึ่งเขามีอยู่แล้ว
10. ยาโคบออกจากเบเออร์เชบาเดินไปยังฮาราน
11. เขามาถึงที่แห่งหนึ่ง และพักอยู่ที่นั่นในคืนนั้น เพราะดวงอาทิตย์ตกแล้ว เขาเอาหินก้อนหนึ่งมาหนุนศีรษะ แล้วนอนลงที่นั่น
12. เขาฝันว่ามีบันไดอันหนึ่งตั้งขึ้นบนแผ่นดินโลก ยอดถึงฟ้าสวรรค์ ทูตทั้งหลายของพระเจ้ากำลังขึ้นลงอยู่บนนั้น
13. พระยาห์เวห์ทรงยืนเหนือบันไดและตรัสว่า “เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัมบิดาของเจ้า และพระเจ้าของอิสอัค แผ่นดินซึ่งเจ้านอนอยู่นั้นเราจะให้แก่เจ้าและเชื้อสายของเจ้า
14. เชื้อสายของเจ้าจะเป็นเหมือนผงคลีบนแผ่นดิน เจ้าจะแผ่กว้างออกไปทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออก ทางทิศเหนือและทิศใต้ พงศ์พันธุ์มนุษย์ทั้งหมดจะได้รับพรเพราะเจ้าและเพราะเชื้อสายของเจ้า
15. นี่แน่ะ เราอยู่กับเจ้า และจะพิทักษ์รักษาเจ้าทุกแห่งหนที่เจ้าไป และจะนำเจ้ากลับมายังดินแดนนี้ เพราะเราจะไม่ทอดทิ้งเจ้า จนกว่าเราจะได้ทำสิ่งซึ่งเราพูดไว้กับเจ้า”
16. ยาโคบตื่นขึ้นจากหลับก็พูดว่า “พระยาห์เวห์ทรงอยู่ ณ ที่นี้แน่ทีเดียว แต่ข้าเองไม่รู้”
17. เขากลัวและพูดว่า “สถานที่นี้น่ายำเกรงนัก สถานที่นี้ไม่ใช่อื่นใดเลย เป็นที่ประทับของพระเจ้า และนี่คือประตูฟ้าสวรรค์”
18. ยาโคบจึงลุกขึ้นแต่เช้ามืด เอาก้อนหินซึ่งใช้หนุนศีรษะ ตั้งขึ้นเป็นเสาศักดิ์สิทธิ์ และเทน้ำมันบนยอดเสานั้น
19. เขาเรียกสถานที่นั้นว่าเบธเอล แต่ก่อนเมืองนั้นชื่อลูส
20. แล้วยาโคบปฏิญาณว่า “ถ้าพระเจ้าทรงอยู่กับข้าพระองค์ ทรงพิทักษ์รักษาทางที่ข้าพระองค์จะไป ประทานอาหารให้ข้าพระองค์รับประทาน และเสื้อผ้าให้ข้าพระองค์สวม