13. มารดาพูดกับเขาว่า “ลูกเอ๋ย ขอให้คำสาปแช่งของเจ้าตกอยู่กับแม่เถิด เชื่อฟังแม่เท่านั้น ไปนำมาให้แม่เถิด”
14. เขาจึงไปนำมาให้มารดา มารดาของเขาก็ทำอาหารอร่อยอย่างที่บิดาของเขาชอบนั้น
15. แล้วเรเบคาห์นำเสื้ออย่างดีที่สุดของเอซาวบุตรชายคนโตของนาง ซึ่งอยู่กับนางในเรือนมาสวมให้ยาโคบบุตรคนเล็กของนาง
16. เอาหนังลูกแพะหุ้มมือและคอที่เกลี้ยงเกลาของเขา
17. แล้วนางก็มอบอาหารอร่อยและขนมปังที่นางทำให้ยาโคบบุตรชายของนางถือไป
18. เขาจึงเข้าไปหาบิดาและพูดว่า “พ่อ” และท่านว่า “พ่ออยู่นี่ ลูกเอ๋ย เจ้าคือใคร?”
19. ยาโคบตอบบิดาของเขาว่า “ลูกเป็นเอซาวบุตรหัวปีของพ่อ ลูกทำตามที่พ่อบอกลูกแล้ว เชิญลุกขึ้นนั่งรับประทานเนื้อที่ลูกหามาเถิด เพื่อพ่อจะได้อวยพรแก่ลูก”
20. แต่อิสอัคพูดกับบุตรชายของตนว่า “ลูกเอ๋ย เจ้าทำอย่างไรจึงพบมันเร็วนัก?” เขาตอบว่า “เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของพ่อทรงนำมาให้ลูก”
21. แล้วอิสอัคจึงพูดกับยาโคบว่า “ลูกเอ๋ย มาใกล้ๆ พ่อจะได้คลำดูเจ้า เพื่อจะได้รู้ว่าเจ้าเป็นเอซาวลูกชายของพ่อแน่หรือไม่?”
22. ยาโคบจึงเข้าไปใกล้อิสอัคบิดา อิสอัคคลำตัวเขาแล้วพูดว่า “เสียงก็เป็นเสียงของยาโคบ แต่มือเป็นมือของเอซาว”
23. ท่านก็จำเขาไม่ได้ เพราะมือของเขามีขนดกเหมือนมือเอซาวพี่ชายของเขา ท่านจึงอวยพรแก่เขา
24. ท่านถามว่า “เจ้าเป็นเอซาวลูกชายของพ่อจริงหรือ?” เขาตอบว่า “ใช่”
25. ท่านจึงว่า “นำอาหารมาให้พ่อ พ่อจะได้กินเนื้อที่ลูกชายของพ่อหามา แล้วอวยพรเจ้า” ยาโคบจึงนำมันมาให้ท่าน ท่านก็รับประทาน ยาโคบนำเหล้าองุ่นมาให้ท่านและท่านก็ดื่ม
26. แล้วอิสอัคบิดาของเขาจึงพูดกับเขาว่า “ลูกเอ๋ยเข้ามาใกล้และจูบพ่อ”
27. เขาจึงเข้ามาใกล้และจูบท่าน และท่านก็ดมกลิ่นที่เสื้อของเขา และอวยพรเขาว่า“ดูซิ กลิ่นลูกชายข้าเหมือนกลิ่นท้องทุ่งซึ่งพระยาห์เวห์ทรงอวยพร
28. ขอพระเจ้าประทานน้ำค้างจากฟ้าแก่เจ้าและประทานความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินทั้งข้าวและเหล้าองุ่นใหม่มากมายแก่เจ้า
29. ขอให้ชนชาติทั้งหลายรับใช้เจ้าขอให้ประชาชาติโน้มลงคำนับเจ้าขอให้เป็นเจ้านายเหนือพี่น้องและบุตรชายมารดาของเจ้าโน้มลงคำนับเจ้าใครแช่งสาปเจ้าก็ขอให้ผู้นั้นถูกสาปและใครอวยพรเจ้าก็ขอให้ผู้นั้นรับพร”