5. ขณะเมื่อเรานอนบนที่นอน เราฝันเห็นเรื่องซึ่งทำให้เรากลัว ความคิดและนิมิตอันผุดขึ้นในศีรษะของเราเป็นเหตุให้เราตกใจ
6. เราก็สั่งให้เรียกนักปราชญ์ของบาบิโลนทั้งสิ้นมาหาเรา เพื่อแก้ความฝันให้เรา
7. พวกโหร หมอดู คนเคลเดีย และหมอดูฤกษ์ยามก็มาเข้าเฝ้า เราก็เล่าความฝันแก่พวกเขา แต่เขาแก้ฝันให้เราไม่ได้
8. ในที่สุดดาเนียลก็เข้ามาเฝ้าเรา เขามีชื่อว่าเบลเทชัสซาร์ ตามนามพระของเรา เขามีวิญญาณของบรรดาพระผู้บริสุทธิ์ เราก็เล่าความฝันให้เขาฟังว่า
9. “โอ เบลเทชัสซาร์ หัวหน้าของพวกโหร เพราะเราทราบว่าวิญญาณของบรรดาพระผู้บริสุทธิ์อยู่ในท่าน และไม่มีความล้ำลึกใดๆ ทำให้ท่านงุนงง เรื่องที่เราฝันเห็นเป็นดังนี้ ขอแก้ฝันให้แก่เราเถิด
10. นิมิตที่ผุดขึ้นในศีรษะของเราเมื่อนอนอยู่บนที่นอน คือเราได้เห็นต้นไม้ต้นหนึ่งท่ามกลางพิภพมันสูงมาก
11. ต้นไม้นั้นเติบโตและแข็งแรงยอดของมันขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์และแม้อยู่ถึงสุดปลายพิภพ ก็ยังมองเห็น
12. ใบงดงามและผลก็อุดมสมบูรณ์และจากต้นไม้นั้น มีอาหารให้แก่สิ่งมีชีวิตทั้งปวงสัตว์ในท้องทุ่งอาศัยอยู่ใต้ร่มของมันนกบนฟ้าก็อาศัยอยู่ที่กิ่งก้านของมันและสิ่งมีชีวิตทั้งปวงก็เลี้ยงชีพอยู่ด้วยมัน
13. “ในนิมิตที่ผุดขึ้นในศีรษะของเราเมื่อเราอยู่บนที่นอนคือ เราได้เห็นทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์องค์หนึ่งลงมาจากฟ้าสวรรค์
14. ท่านเปล่งเสียงดังและพูดว่า ‘โค่นต้นไม้นี้และตัดกิ่งออกเสีย ลิดใบออกแล้วให้ผลของมันกระจายไป ให้สัตว์ป่าหนีไปจากใต้ต้น และให้นกหนีไปจากกิ่งของมัน
15. แต่จงปล่อยให้ตอรากติดอยู่ในดิน มีแถบเหล็กและทองสัมฤทธิ์มัดไว้ ให้อยู่ท่ามกลางหญ้าอ่อนในทุ่งนา ให้เปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ ให้มีส่วนอยู่กับสัตว์ป่าในหญ้าที่พื้นดิน
16. ให้จิตใจเปลี่ยนจากจิตใจมนุษย์เป็นจิตใจสัตว์ป่า และปล่อยให้เป็นอยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ
17. คำพิพากษานั้นเป็นคำสั่งของบรรดาทูตสวรรค์ คำตัดสินนั้นเป็นวาทะของผู้บริสุทธิ์ทั้งหลาย เพื่อบรรดาผู้มีชีวิตอยู่จะได้ทราบว่าพระองค์ผู้สูงสุดทรงปกครองบรรดาราชอาณาจักรของมนุษย์ และประทานราชอาณาจักรนั้นแก่ผู้ที่พระองค์พอพระทัย และทรงตั้งผู้ต่ำต้อยที่สุดให้ปกครอง’
18. ความฝันนี้ตัวเราคือกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้เห็น และโอ เบลเทชัสซาร์ ท่านจงกล่าวคำแก้ฝันเถิด เพราะพวกนักปราชญ์ทั้งสิ้นแห่งราชอาณาจักรของเราไม่สามารถให้คำแก้ความฝันแก่เรา แต่ท่านสามารถ เพราะวิญญาณของบรรดาพระผู้บริสุทธิ์อยู่ในตัวท่าน”
19. แล้วดาเนียล ผู้มีชื่อว่าเบลเทชัสซาร์ตะลึงอยู่ประเดี๋ยวหนึ่ง ความคิดของท่านก็ทำให้ท่านตกใจ กษัตริย์ตรัสว่า “เบลเทชัสซาร์เอ๋ย อย่าให้ความฝันหรือคำแก้ความฝันทำให้ท่านตกใจเลย” เบลเทชัสซาร์ทูลตอบว่า “เจ้านายของข้าพระบาท ขอให้ความฝันนั้นเป็นของบรรดาศัตรูของพระองค์เถิด และขอให้คำแก้ความฝันนั้นตกแก่พวกอริของพระองค์
20. ต้นไม้ที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตร ซึ่งเติบโตขึ้นและแข็งแรง จนยอดขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และแม้จะอยู่ถึงสุดปลายพิภพ ก็ยังมองเห็น
21. ใบงดงามและผลก็อุดมสมบูรณ์ และจากต้นไม้นั้น มีอาหารให้แก่สิ่งมีชีวิตทั้งปวง สัตว์ในท้องทุ่งอาศัยอยู่ใต้ร่มของมัน นกบนฟ้าก็ทำรังอยู่ที่กิ่งก้านของมัน
22. ข้าแต่พระราชา นี่คือฝ่าพระบาทเอง ผู้ทรงเจริญและเข้มแข็ง ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้เจริญขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และการครอบครองของพระองค์ไปถึงสุดปลายพิภพ
23. และที่พระราชาทอดพระเนตรทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์ลงมาจากฟ้าสวรรค์ และพูดว่า ‘โค่นต้นไม้นี้ลงและทำลายเสีย แต่จงปล่อยให้ตอรากติดอยู่ในดิน มีแถบเหล็กและทองสัมฤทธิ์ล่ามไว้ ให้อยู่ท่ามกลางหญ้าอ่อนในทุ่งนา ให้เปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ ให้อยู่ร่วมกับสัตว์ในท้องทุ่ง และปล่อยให้อยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ’
24. ข้าแต่พระราชา ต่อไปนี้เป็นคำแก้พระสุบิน เป็นพระราชกฤษฎีกามาจากพระผู้สูงสุด ซึ่งมาถึงพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทว่า
25. ฝ่าพระบาทจะทรงถูกขับไล่ไปจากท่ามกลางมนุษย์ และฝ่าพระบาทจะอยู่กับสัตว์ในท้องทุ่ง ฝ่าพระบาทจะต้องเสวยหญ้าอย่างกับโค และต้องเปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ จะเป็นอยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ จนกว่าฝ่าพระบาทจะทราบว่า พระผู้สูงสุดนั้นทรงปกครองราชอาณาจักรของมนุษย์ และพระองค์จะประทานราชอาณาจักรนั้นแก่ผู้ที่พระองค์พอพระทัย