32. พวกทหารจึงตัดเชือกที่ผูกเรือเล็กให้เรือหลุดลอยไป
33. พอใกล้รุ่งเช้า เปาโลก็เชิญชวนทุกคนให้รับประทานอาหารและกล่าวว่า “วันนี้เป็นวันที่สิบสี่แล้วที่ท่านเฝ้าแต่รอและอดอาหาร ไม่ได้กินอะไรเลย
34. ข้าพเจ้าจึงขอเชิญชวนท่านให้รับประทานอาหารเสียบ้างเพื่อจะประทังชีวิตอยู่ได้ เพราะไม่มีใครในพวกท่านที่จะต้องเสียแม้แต่เส้นผมสักเส้นหนึ่ง”
35. เมื่อกล่าวอย่างนั้นแล้ว ท่านจึงหยิบขนมปังขอบพระคุณพระเจ้าต่อหน้าทุกคน แล้วก็หักรับประทาน
36. ทุกคนก็มีกำลังใจขึ้นจึงรับประทานอาหารด้วย
37. (เราที่อยู่ในเรือลำนั้นมีจำนวนสองร้อยเจ็ดสิบหกคน)
38. หลังจากรับประทานอาหารอิ่มแล้ว จึงขนข้าวสาลีในเรือทิ้งลงทะเลเพื่อให้เรือเบาขึ้น
39. เมื่อสว่างแล้วพวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าเป็นแผ่นดินอะไร แต่เห็นอ่าวแห่งหนึ่งมีหาด จึงตกลงกันว่า ถ้าเป็นได้จะให้เรือเข้าเกยหาดนั้น
40. เขาจึงตัดสายสมอทิ้งลงทะเลแล้วแก้เชือกที่มัดหางเสือและชักใบหัวเรือขึ้นให้กินลมแล่นตรงเข้าหาฝั่ง
41. เมื่อมาถึงบริเวณหนึ่งที่ทะเลสองข้างบรรจบกัน เรือก็เกยดินจนหัวเรือติดแน่นขยับไม่ได้ ส่วนท้ายเรือนั้นแตกออกด้วยกำลังคลื่น
42. พวกทหารคิดจะฆ่านักโทษทั้งหลายเพื่อไม่ให้ใครว่ายน้ำหนีไปได้
43. แต่นายร้อยต้องการช่วยเปาโล จึงไม่ให้พวกทหารทำตามความคิดนั้น แล้วสั่งคนที่ว่ายน้ำเป็นให้กระโดดน้ำว่ายเข้าหาฝั่งก่อน