4. และบิดาของเธอได้ยินคำที่เธอบนไว้ และได้ยินคำสัญญาที่ผูกมัดตัวเธอโดยที่เขาไม่ได้พูดอะไรกับเธอ ก็ให้คำที่บนไว้นั้นคงอยู่ รวมทั้งคำสัญญาที่ผูกมัดเธอไว้นั้นก็ให้คงอยู่ด้วย
5. แต่ถ้าบิดาของเธอคัดค้านในวันที่เขาได้ยิน คำที่เธอบนไว้ทั้งหมดรวมทั้งคำสัญญาที่ผูกมัดเธอก็จะเป็นโมฆะ และพระยาห์เวห์จะทรงให้อภัยเธอ เพราะบิดาของเธอคัดค้านเธอไว้
6. และถ้าเธอแต่งงานโดยมีสิ่งที่เธอบนไว้หรือมีคำพูดที่ไม่ทันคิดผูกมัดเธอไว้
7. แล้วสามีก็มาได้ยิน และสามีไม่ได้พูดอะไรกับเธอในวันที่ได้ยินนั้น สิ่งที่เธอบนไว้นั้นก็คงอยู่ รวมทั้งคำสัญญาที่ผูกมัดตัวเธอก็คงอยู่ด้วย
8. แต่ถ้าสามีคัดค้านในวันนั้นที่เขาได้ยิน ก็จะทำให้คำที่เธอบนไว้นั้นเป็นโมฆะ รวมทั้งคำพูดที่ไม่ทันคิดของเธอซึ่งผูกมัดเธอนั้นก็เป็นโมฆะด้วย และพระยาห์เวห์จะทรงให้อภัยเธอ
9. (แต่คำที่แม่ม่ายหรือหญิงที่หย่าร้างบนไว้รวมทั้งคำใดๆ ที่นางพูดผูกมัดตัวเองย่อมคงอยู่กับนาง)
10. และถ้านางบนไว้ในบ้านสามีของนาง รวมทั้งสาบานด้วยคำสัญญาที่ผูกมัดตัวเองไว้
11. และสามีของนางได้ยิน แต่ไม่พูดอะไรกับนาง และไม่คัดค้านนาง คำบนบานทั้งหมดของนางย่อมคงอยู่ และคำสัญญาทุกอย่างที่นางผูกมัดตัวเองย่อมคงอยู่
12. แต่ถ้าสามีของนางได้ทำให้เป็นโมฆะในวันที่เขาได้ยิน สิ่งใดๆ ที่ออกจากปากของนางเกี่ยวกับคำบนบาน หรือเกี่ยวกับคำที่ผูกมัดตัวเองย่อมไม่คงอยู่ สามีของนางได้ทำให้เป็นโมฆะแล้ว และพระยาห์เวห์จะทรงให้อภัยนาง
13. คำบนบานใดๆ หรือคำสาบานใดๆ ที่เป็นการปฏิเสธความต้องการของนางนั้น สามีของนางจะให้คงอยู่หรือเป็นโมฆะก็ได้