9. เขาหมอบลงและนอนลงอย่างสิงห์ตัวผู้เหมือนนางสิงห์ที่ไม่มีใครกล้ามาปลุกให้ลุกขึ้นคนที่อวยพรท่านก็จะได้รับพรผู้ที่สาปแช่งท่านก็จะถูกสาปแช่ง”
10. บาลาคก็กริ้วบาลาอัม จึงทรงตบมือ แล้วบาลาคตรัสกับบาลาอัมว่า “เราเชิญท่านมาให้สาปแช่งพวกศัตรูของเรา แต่ดูซิ ท่านกลับอวยพรเขาต่อเนื่องกันถึงสามครั้ง
11. บัดนี้ จงกลับไปยังที่อยู่ของท่าน เราบอกว่า เราจะให้เกียรติท่านอย่างสูง แต่ดูสิ พระยาห์เวห์ทรงขวางไม่ให้ท่านได้รับเกียรติ”
12. แต่บาลาอัมทูลบาลาคว่า “ข้าพระบาทบอกผู้สื่อสารซึ่งฝ่าพระบาททรงใช้ให้ไปหาข้าพระบาทแล้วไม่ใช่หรือว่า
13. ‘แม้ว่าบาลาคจะประทานเงินและทองเต็มวังของพระองค์แก่ข้า ข้าก็ไม่อาจจะทำอะไรนอกเหนือพระบัญชาของพระยาห์เวห์ และไม่อาจจะทำดีหรือชั่วตามใจข้า พระยาห์เวห์ตรัสอย่างไร ข้าก็พูดอย่างนั้น’?
14. นี่แน่ะ บัดนี้ข้าพระบาทจะกลับไปยังชนชาติของข้าพระบาท มาเถิด ข้าพระบาทจะสำแดงให้ฝ่าพระบาททรงทราบว่า ชนชาตินี้จะทำอะไรกับชนชาติของฝ่าพระบาทในวันข้างหน้า”
15. เขาก็กล่าวกลอนภาษิตของเขาว่า“คำพยากรณ์ของบาลาอัมบุตรเบโอร์คำพยากรณ์ของชายที่ตาสว่าง
16. คำพยากรณ์ของผู้ที่ได้ยินพระวจนะของพระเจ้าและรู้ถึงพระปัญญาขององค์ผู้สูงสุดผู้ที่ได้เห็นนิมิตขององค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ผู้ล้มลง แต่นัยน์ตากลับไม่ถูกบดบัง
17. ข้าพเจ้าเห็นเขา แต่ไม่ใช่ในเวลานี้ข้าพเจ้ามองดูเขา แต่ไม่ใช่จากระยะใกล้ตัวดาวดวงหนึ่งจะออกมาจากยาโคบและพระคทาอันหนึ่งจะมาจากอิสราเอลแล้วจะทุบหน้าผากของโมอับและทำลายเผ่าพันธุ์ทั้งหมดของเชท
18. ส่วนเอโดมจะตกเป็นมรดกเสอีร์จะตกเป็นมรดกของพวกศัตรูของเขาแต่อิสราเอลจะสร้างวีรกรรม
19. ผู้หนึ่งจากยาโคบจะครอบครองและเขาจะทำลายชาวเมืองที่รอดตาย”
20. และบาลาอัมมองดูพวกคนอามาเลข แล้วกล่าวกลอนภาษิตของเขาว่า“อามาเลขเป็นที่หนึ่งของประชาชาติแต่บั้นปลายของเขาคือการถูกทำลาย”
21. และเขามองดูคนเคไนต์ แล้วกล่าวกลอนภาษิตของเขาว่า“ที่อาศัยของเจ้ามั่นคงถาวรและรังของเจ้าอยู่ในหินผา
22. ถึงอย่างไรคนเคไนต์ก็จะถูกทำลายล้างพวกอัสชูรจะกวาดเจ้าไปเป็นเชลยนานเท่าไร?”
23. และบาลาอัมกล่าวกลอนภาษิตของเขาว่า“อนิจจาเอ๋ย เมื่อพระเจ้าทรงทำเช่นนี้ใครจะอยู่ได้
24. แต่เรือจะมาจากชายฝั่งคิทธิมทำลายอัสชูรและเอเบอร์และเขาเองก็จะถูกทำลายด้วย”