11. และพวกเขาออกเดินทางจากโอโบทไปตั้งค่ายอยู่ที่อิเยอาบาริม ซึ่งอยู่ในถิ่นทุรกันดารตรงข้ามโมอับ ทางด้านตะวันออก
12. และจากที่นั่นพวกเขาออกเดินทางไปตั้งค่ายอยู่ที่หุบเขาเศเรด
13. แล้วพวกเขาออกเดินทางจากที่นั่นไปตั้งค่ายอยู่ที่อีกฟากหนึ่งของลุ่มแม่น้ำอารโนน ซึ่งอยู่ในถิ่นทุรกันดารที่ยืดมาจากพรมแดนของคนอาโมไรต์ เพราะว่าแม่น้ำอารโนนเป็นพรมแดนของโมอับ ระหว่างโมอับกับคนอาโมไรต์
14. ดังนั้นในหนังสือสงครามของพระยาห์เวห์จึงกล่าวไว้ว่าวาเฮบในเมืองสุฟาห์ ทั้งหุบเขาแม่น้ำอารโนน
15. และที่เชิงลาดของหุบเขาซึ่งยืดไปจนถึงที่ตั้งของเมืองอาร์และพาดไปตามพรมแดนของโมอับ
16. แล้วจากที่นั่นก็เดินทางต่อไปถึงเมืองเบเออร์ ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงรวบรวมประชาชนเข้าด้วยกันและเราจะให้น้ำแก่พวกเขา”
17. แล้วอิสราเอลจึงร้องเพลงนี้ว่าจงมีน้ำพลุ่งขึ้น บ่อน้ำเอ๋ย จงร้องเพลงให้บ่อน้ำเถิด
18. คือบ่อน้ำที่พวกหัวหน้าขุดไว้เป็นบ่อที่เจ้านายของประชาชนเจาะไว้ด้วยคทาและไม้เท้าของเขาทั้งหลายและจากถิ่นทุรกันดารนั้นพวกเขาก็มาถึงมัทธานาห์
19. และจากมัทธานาห์ถึงตำบลนาหะลีเอล และจากนาหะลีเอลถึงตำบลบาโมท
20. และจากบาโมทถึงหุบเขาในถิ่นของโมอับที่อยู่ข้างยอดเขาปิสกาห์ซึ่งมองลงมาเห็นเยชิโมน
21. แล้วอิสราเอลส่งผู้สื่อสารไปเข้าเฝ้าสิโหนกษัตริย์คนอาโมไรต์ทูลว่า
22. “ขอให้ข้าพระบาทผ่านดินแดนของฝ่าพระบาท พวกข้าพระบาทจะไม่เลี้ยวเข้าไปในไร่นาหรือในสวนองุ่น จะไม่ดื่มน้ำจากบ่อน้ำ แต่จะเดินไปตามทางหลวงจนเราผ่านพรมแดนของฝ่าพระบาท”