2. “จงทำแตรเงินสองคันให้ตัวเจ้าเอง ให้ทำโดยการใช้ค้อนทุบ เจ้าจงใช้แตรนั้นเรียกชุมชนให้มาชุมนุมกัน และใช้รื้อย้ายค่ายออกเดิน
3. เมื่อเป่าแตรทั้งสอง ก็ให้ชุมชนทั้งหมดมาประชุมกับเจ้าตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ
4. แต่ถ้าเป่าแตรคันเดียว ก็ให้บรรดาผู้นำคือหัวหน้ากองพันของอิสราเอลมาประชุมกับเจ้า
5. แต่เมื่อเจ้าเป่าสัญญาณแตรปลุก ก็ให้ค่ายต่างๆ ที่ตั้งอยู่ด้านตะวันออกยกออกเดินทาง
6. เมื่อเป่าสัญญาณแตรปลุกครั้งที่สอง ให้บรรดาค่ายที่อยู่ด้านใต้ยกออกเดินทาง เมื่อจะยกออกเดินทางก็ให้เป่าสัญญาณแตรปลุก
7. แต่เมื่อจะให้ชุมชนมาประชุมพร้อมกัน ก็จงเป่าแตรแต่อย่าทำเสียงสัญญาณปลุก
8. ให้ลูกๆ ของอาโรนคือปุโรหิตเป็นคนเป่าแตร แตรนี้จะเป็นกฎเกณฑ์ถาวรตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเจ้า
9. และเมื่อเจ้าทั้งหลายจะไปทำสงครามกับศัตรูที่มาบีบบังคับพวกเจ้าในแผ่นดินของเจ้า ก็ให้เป่าแตรทำเสียงสัญญาณปลุก เพื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าจะทรงระลึกถึงพวกเจ้า และช่วยให้พ้นจากศัตรูของเจ้า
10. ในวันที่เจ้าทั้งหลายมีความยินดีในงานเทศกาลเลี้ยงและในวันต้นเดือนของเจ้า เจ้าจงเป่าแตรเหนือเครื่องบูชาเผาทั้งตัวและเหนือเครื่องบูชาที่เป็นศานติบูชา ซึ่งจะทำให้พระเจ้าของเจ้าระลึกถึงพวกเจ้าเฉพาะพระพักตร์พระองค์ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า”
11. ในวันที่ยี่สิบเดือนที่สองปีที่สอง เมฆนั้นถูกยกขึ้นจากพลับพลาแห่งสักขีพยาน
12. คนอิสราเอลก็ยกออกเดินทางเป็นระยะๆ จากถิ่นทุรกันดารซีนาย และเมฆนั้นมาหยุดอยู่ที่ถิ่นทุรกันดารปาราน