6. แต่พระเจ้าผู้ทรงหนุนใจคนที่ท้อใจ ได้ทรงหนุนใจเราด้วยการมาของทิตัส
7. และไม่เฉพาะเพียงการมาของเขาเท่านั้น แต่ยังด้วยการหนุนน้ำใจที่เขาได้รับจากพวกท่าน เขาบอกเราถึงความอาลัยและความโศกเศร้าของท่าน ทั้งความกระตือรือร้นของท่านทั้งหลายที่มีต่อข้าพเจ้า ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งมีความยินดีมากขึ้น
8. เพราะถึงแม้ว่าข้าพเจ้าทำให้ท่านเสียใจเพราะจดหมายฉบับนั้น ข้าพเจ้าก็ไม่เสียใจ (แม้ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าจะเสียใจ เพราะข้าพเจ้าเห็นว่าจดหมายฉบับนั้นทำให้พวกท่านเสียใจแม้เพียงชั่วขณะ)
9. แต่บัดนี้ข้าพเจ้ามีความยินดี ไม่ใช่เพราะพวกท่านเสียใจ แต่เพราะความเสียใจนั้นทำให้ท่านกลับใจ เพราะว่าท่านทั้งหลายได้รับความเสียใจตามพระประสงค์ของพระเจ้า ท่านจึงไม่ได้รับผลร้ายจากเราเลย
10. เพราะว่าความเสียใจตามพระประสงค์ของพระเจ้า ทำให้เกิดการกลับใจ ซึ่งจะนำไปสู่ความรอดและจะไม่ทำให้เสียใจ แต่ความเสียใจอย่างโลกนั้นย่อมนำสู่ความตาย
11. จงดูสิว่าความเสียใจตามพระประสงค์ของพระเจ้าเช่นนี้ นำไปสู่การเอาจริงเอาจังเพียงไร และยังทำให้เกิดการขวนขวายที่จะพิสูจน์ตัวเอง เกิดความขุ่นเคือง ความตื่นตัว ความอาลัย ความกระตือรือร้น และเกิดการลงโทษ พวกท่านพิสูจน์ตัวเองในทุกด้านแล้วว่าเป็นผู้ปราศจากความผิดในเรื่องนี้
12. ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่านทั้งหลาย ก็ไม่ใช่เพราะเห็นแก่คนที่ทำผิด หรือเพราะเห็นแก่คนที่ต้องทนต่อการร้าย แต่เพื่อให้การเอาจริงเอาจังที่ท่านมีต่อเรา ปรากฏกับพวกท่านเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า
13. เพราะเหตุนี้เราจึงได้รับการหนุนใจนอกจากได้รับการหนุนใจแล้ว เรายังมีความยินดีมากยิ่งขึ้นเนื่องจากความยินดีของทิตัส เพราะพวกท่านทุกคนทำให้จิตใจของเขาสงบ
14. เพราะที่ข้าพเจ้าอวดเรื่องของท่านแก่ทิตัส ข้าพเจ้าก็ไม่ต้องละอายเลย แต่ทุกสิ่งที่เราพูดกับท่านทั้งหลายเป็นความจริงอย่างไร สิ่งที่เราอวดกับทิตัสก็ปรากฏเป็นจริงอย่างนั้น
15. และความรักที่เขามีต่อพวกท่านก็เพิ่มพูนขึ้น เมื่อเขาระลึกถึงความเชื่อฟังของพวกท่าน และการที่พวกท่านทุกคนต้อนรับเขาด้วยความเกรงกลัวและตัวสั่น
16. ข้าพเจ้าชื่นชมยินดี เพราะข้าพเจ้ามั่นใจพวกท่านได้อย่างเต็มที่