4. พระองค์ผู้ทรงหนุนใจเราในความยากลำบากทั้งหมดของเรา เพื่อเราจะสามารถหนุนใจคนทั้งหลาย ที่มีความยากลำบากอย่างใดอย่างหนึ่งได้ด้วยการหนุนใจ ซึ่งเราเองได้รับจากพระเจ้า
5. เพราะความรักของพระคริสต์มากท่วมท้นเราอย่างไร การหนุนใจของพระคริสต์ก็มากท่วมท้นเราอย่างนั้น
6. ที่เราทนความยากลำบากนั้น ก็เพื่อให้พวกท่านได้รับการหนุนใจและได้รับความรอด และที่เราได้รับการหนุนใจ ก็เพื่อให้พวกท่านได้รับการหนุนใจด้วย ซึ่งท่านจะได้รับเมื่อสู้ทนความทุกข์เช่นเดียวกับที่เราทนอยู่นั้น
7. และเราก็มีความหวังแน่นอนในท่านทั้งหลาย เพราะรู้ว่าพวกท่านมีส่วนในความทุกข์ของเราอย่างไร ท่านก็จะมีส่วนในการหนุนใจของเราอย่างนั้น
8. พี่น้องทั้งหลาย เราอยากให้พวกท่านรู้ถึงความยากลำบากที่เกิดกับเราในแคว้นเอเชีย คือเราเผชิญความทุกข์หนักอย่างยิ่งชนิดที่เกินกำลัง จนเราหมดหวังที่จะเอาชีวิตรอดมาได้
9. ที่จริงเรารู้สึกว่าถูกตัดสินให้ถึงที่ตายแล้ว ทั้งนี้เพื่อเราจะไม่ไว้ใจตัวเอง แต่ไว้ใจพระเจ้าผู้ทรงให้คนทั้งหลายเป็นขึ้นจากตาย
10. พระองค์ทรงช่วยเราให้พ้นจากมรณภัยมาแล้ว และพระองค์จะทรงช่วยเราอีก เราหวังในพระองค์ว่าพระองค์จะทรงช่วยเราต่อไปอีก
11. ในเมื่อพวกท่านก็มีส่วนช่วยโดยการทูลขอเผื่อเรา เพื่อคนจำนวนมากจะขอบพระคุณเพราะเรา เนื่องจากพระคุณที่ประทานแก่เราผ่านคำทูลขอของคนจำนวนมากนั้น
12. นี่เป็นสิ่งที่เราอวด คือมโนธรรมของเราเป็นพยานว่า เราประพฤติตัวในโลกด้วยความบริสุทธิ์ใจ และด้วยความจริงใจที่มาจากพระเจ้า ไม่ใช่ประพฤติโดยปัญญาของมนุษย์แต่โดยพระคุณของพระเจ้า และต่อพวกท่านเราประพฤติยิ่งกว่านั้นเสียอีก
13. เพราะว่าเราไม่ได้เขียนเรื่องอื่นถึงท่าน นอกจากเรื่องที่พวกท่านสามารถอ่านและเข้าใจได้ ข้าพเจ้าหวังว่าพวกท่านจะเข้าใจเราเป็นอย่างดี
14. เหมือนที่ท่านเข้าใจบ้างแล้ว คือในวันของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พวกท่านจะภูมิใจในเราเช่นเดียวกับที่เราจะภูมิใจในท่าน
15. และด้วยความแน่ใจในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าจึงอยากไปเยี่ยมพวกท่านก่อนเพื่อน เพื่อท่านจะได้รับพรสองเท่า
16. ข้าพเจ้าจะแวะเยี่ยมพวกท่านระหว่างที่เดินทางไปยังแคว้นมาซิโดเนีย และเมื่อกลับจากแคว้นมาซิโดเนีย ก็จะแวะเยี่ยมพวกท่านอีก แล้วขอท่านอุปการะข้าพเจ้า ให้เดินทางต่อไปยังแคว้นยูเดีย
17. เมื่อข้าพเจ้าตั้งใจเช่นนี้ ข้าพเจ้าทำด้วยความโลเลหรือ? และข้าพเจ้าวางแผนการตามอย่างมนุษย์ที่จะพูดว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” แบบส่งๆ หรือ?
18. พระเจ้าทรงสัตย์จริงอย่างไร คำของเราที่กล่าวกับพวกท่านก็ไม่ใช่เป็นคำรับ หรือปฏิเสธแบบส่งๆ อย่างนั้น
19. เพราะว่าพระบุตรของพระเจ้าคือพระเยซูคริสต์ ผู้ซึ่งข้าพเจ้ากับสิลวานัสและทิโมธี ประกาศแก่พวกท่านนั้นไม่ใช่ “จริง” หรือ “ไม่จริง” แบบส่งๆ แต่ในพระองค์ทุกอย่างล้วนแต่เป็นจริง
20. เพราะว่าพระสัญญาต่างๆ ของพระเจ้าล้วนแต่เป็นจริงโดยพระเยซู เพราะเหตุนี้เราจึงพูดว่าอาเมนโดยพระองค์ ซึ่งเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า
21. ผู้ทรงให้เรากับท่านทั้งหลายตั้งมั่นอยู่ในพระคริสต์ และผู้ที่ทรงเจิมเรานั้นคือพระเจ้า