11. เพราะโดยวิธีนี้ ทางที่จะเข้าอาณาจักรนิรันดร์ของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา จะถูกจัดเตรียมอย่างพร้อมมูลให้กับพวกท่าน
12. เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าพร้อมเสมอที่จะเตือนความจำท่านทั้งหลายถึงสิ่งเหล่านี้ ถึงแม้ว่าพวกท่านรู้และตั้งมั่นในความจริงนั้นแล้ว
13. ตราบที่ข้าพเจ้ายังอยู่ในกายนี้ ข้าพเจ้าเห็นสมควรที่จะฟื้นความจำพวกท่าน
14. เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าอีกไม่นานข้าพเจ้าก็จะตาย ดังที่พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้ทรงแจ้งแก่ข้าพเจ้าแล้ว
15. และข้าพเจ้าจะพยายามให้ท่านทั้งหลายระลึกถึงสิ่งเหล่านี้เสมอ หลังจากข้าพเจ้าจากไปแล้ว
16. เพราะว่าเราไม่ได้คล้อยตามนิยายที่แต่งขึ้นอย่างชาญฉลาด เมื่อเราได้ประกาศให้พวกท่านทราบถึงฤทธานุภาพ และการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทั้งหลาย แต่เราเป็นสักขีพยานถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์
17. เพราะว่าคราวเมื่อพระองค์ทรงได้รับพระเกียรติและพระสิริจากพระเจ้าพระบิดา และพระสุรเสียงจากพระสิริอันยิ่งใหญ่ได้มาถึงพระองค์ว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรของเราและเป็นที่รักของเรา เราพอใจท่านผู้นี้มาก”
18. พวกเราเองก็ได้ยินพระสุรเสียงนี้จากสวรรค์ ขณะที่เราอยู่กับพระองค์ที่ภูเขาบริสุทธิ์นั้น
19. และเรามีคำเผยพระวจนะที่แน่นอนยิ่งกว่านั้นอีก จะเป็นการดีถ้าพวกท่านจะเอาใจใส่คำนั้น เพราะคำนั้นเป็นเสมือนตะเกียงที่ส่องสว่างในที่มืด จนกว่าแสงอรุณจะขึ้น และดาวรุ่งจะผุดขึ้นในใจของพวกท่าน
20. ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจข้อนี้ก่อน คือผู้หนึ่งผู้ใดจะตีความหมายคำของผู้เผยพระวจนะในพระคัมภีร์เอาเองไม่ได้
21. เพราะว่าคำของผู้เผยพระวจนะนั้น ไม่ได้มาจากความประสงค์ของมนุษย์เลย แต่มนุษย์กล่าวคำซึ่งมาจากพระเจ้า ตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงดลใจเขา