15. เวลานี้ ขอทรงนำผู้เล่นเครื่องสายมาให้ข้าพระบาทสักคนหนึ่ง” เมื่อผู้เล่นเครื่องสายบรรเลงแล้ว ฤทธานุภาพของพระยาห์เวห์ก็มาเหนือท่าน
16. และท่านทูลว่า “พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า ‘ทำหุบเขานี้ให้เต็มไปด้วยสระ’
17. เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า ‘เจ้าทั้งหลายจะไม่เห็นลมหรือฝน แต่หุบเขานั้นจะเต็มไปด้วยน้ำ เพื่อเจ้าจะได้ดื่ม ทั้งเจ้าเอง ฝูงปศุสัตว์ของเจ้า และสัตว์ใช้งานของเจ้า’
18. เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ และพระองค์จะทรงมอบคนโมอับไว้ในมือของพวกเจ้าด้วย
19. พวกเจ้าจะโจมตีเมืองที่มีป้อมทุกเมือง และเมืองเอกทุกเมือง และจะโค่นต้นไม้ดีทุกต้น และจะอุดน้ำพุทุกแห่งเสีย และทำไร่นาดีทุกแปลงให้เสียไปด้วยหิน”
20. ต่อมาพอรุ่งเช้าประมาณเวลาถวายเครื่องบูชา นี่แน่ะ มีน้ำมาทางเมืองเอโดมจนแผ่นดินเต็มไปด้วยน้ำ
21. และเมื่อคนโมอับทั้งหมดได้ยินว่าบรรดาพระราชายกขึ้นมารบกับตน พวกเขาก็รวบรวมทุกคนที่สวมเกราะได้ทั้งหนุ่มและแก่ และให้ไปตั้งรับที่พรมแดน
22. เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นตอนเช้าตรู่ ดวงอาทิตย์ส่องแสงอยู่บนน้ำ คนโมอับเห็นน้ำที่อยู่ตรงข้ามกับตนแดงเหมือนเลือด
23. พวกเขาพูดว่า “นี่เป็นเลือด บรรดาพระราชาสู้รบกันแน่ๆ และฆ่ากันเอง โมอับเอ๋ย เวลานี้มาเถิด มาริบเอาข้าวของของเขา”
24. แต่เมื่อคนโมอับมาถึงค่ายอิสราเอล คนอิสราเอลก็ลุกขึ้นต่อสู้กับพวกเขาจนเขาทั้งหลายหนีไป แล้วคนอิสราเอลรุกหน้าเข้าไปในแผ่นดินได้ฆ่าฟันคนโมอับ
25. พวกเขาได้ทลายเมืองต่างๆ และแต่ละคนโยนหินเข้าไปในไร่นาที่ดีทุกแปลง เขาอุดน้ำพุเสียทุกแห่ง และโค่นต้นไม้ดีๆ เสียหมด จนที่สุดก็เหลือแต่เมืองคีร์หะเรเซทเท่านั้น บรรดานักสลิงได้ล้อมเมืองไว้และโจมตีได้
26. เมื่อพระราชาแห่งโมอับทรงเห็นว่าจะสู้ไม่ได้ ก็ทรงพาพลดาบ 700 คนตีฝ่าออกมาทางด้านพระราชาแห่งเอโดม แต่ออกมาไม่ได้
27. แล้วพระองค์ทรงนำพระราชโอรสหัวปี ผู้ควรจะขึ้นครองราชย์แทนนั้น ถวายเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัวที่บนกำแพง และมีพระพิโรธใหญ่ยิ่งต่อพวกอิสราเอล เขาทั้งหลายก็ยกถอยไปจากพระองค์และกลับบ้านเมืองของตน