12. และเยโฮยาคีนพระราชาแห่งยูดาห์ ทรงมอบพระองค์แก่พระราชาแห่งบาบิโลน ทั้งตัวพระองค์เองพร้อมกับพระราชมารดา ข้าราชการ แม่ทัพ และข้าราชสำนักของพระองค์ แล้วพระราชาแห่งบาบิโลนจับพระองค์เป็นเชลยในปีที่ 8 แห่งรัชกาลของพระองค์
13. และพระราชาแห่งบาบิโลนได้ทรงขนเอาทรัพย์สินในพระนิเวศของพระยาห์เวห์และทรัพย์สินในพระราชวัง และทรงตัดทอนภาชนะทองคำ ซึ่งซาโลมอนพระราชาแห่งอิสราเอลทรงสร้างไว้ในพระวิหารของพระยาห์เวห์ ดังที่พระยาห์เวห์ตรัสไว้ก่อนแล้ว
14. พระองค์ทรงกวาดต้อนชาวเยรูซาเล็มไปทั้งหมด คือเจ้านายทั้งหมด นักรบกล้าหาญทั้งหมดไปเป็นเชลย 10,000 คน รวมทั้งช่างฝีมือและช่างเหล็กทั้งหมด ไม่มีใครเหลือนอกจากประชาชนของแผ่นดินที่ยากจนที่สุด
15. และพระองค์ทรงนำเยโฮยาคีนไปยังบาบิโลน ทั้งพระราชมารดา บรรดาพระมเหสี ข้าราชสำนักของพระองค์และบุคคลชั้นหัวหน้าของแผ่นดิน พระองค์จับเอาไปเป็นเชลยจากกรุงเยรูซาเล็มถึงบาบิโลน
16. และพระราชาแห่งบาบิโลนทรงนำเชลยมายังบาบิโลนคือ ทหารทั้งหมด 7,000 คน ช่างฝีมือและช่างเหล็ก 1,000 คน ทุกคนแข็งแรง และเหมาะสำหรับการรบ
17. และพระราชาแห่งบาบิโลนตั้งมัทธานิยาห์พระปิตุลาของเยโฮยาคีนเป็นพระราชาแทนพระองค์ และเปลี่ยนพระนามให้ว่า เศเดคียาห์
18. เศเดคียาห์มีพระชนมายุ 21 พรรษา เมื่อทรงเป็นกษัตริย์ และทรงครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 11 ปี พระมารดาของพระองค์มีพระนามว่า ฮามุทาลบุตรหญิงของเยเรมีย์ชาวลิบนาห์
19. พระองค์ทรงทำสิ่งชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ ตามทุกอย่างที่เยโฮยาคิมทรงกระทำ
20. เพราะพระพิโรธของพระยาห์เวห์ต่อเยรูซาเล็มและยูดาห์ พระองค์จึงทรงเหวี่ยงทั้งสองไปให้พ้นพระพักตร์ของพระองค์เศเดคียาห์ได้กบฏต่อพระราชาแห่งบาบิโลน