32. ประชาชาติเหล่านี้นมัสการพระยาห์เวห์ด้วย แต่ได้ตั้งปุโรหิตแห่งปูชนียสถานสูงจากท่ามกลางพวกเขา ให้ทำหน้าที่เพื่อพวกเขาในนิเวศแห่งปูชนียสถานสูง
33. เขาจึงยำเกรงพระยาห์เวห์ แต่ก็ปรนนิบัติบรรดาพระของเขาเองด้วย ตามธรรมเนียมของบรรดาประชาชาติที่พวกอัสซีเรียกวาดเขามาจากที่นั้น
34. ทุกวันนี้เขาก็ทำตามธรรมเนียมเดิมเขาทั้งหลายไม่ยำเกรงพระยาห์เวห์ ไม่ทำตามกฎเกณฑ์ หรือกฎหมาย หรือธรรมบัญญัติ หรือพระบัญญัติ ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงบัญชาแก่ลูกหลานของยาโคบ ผู้ที่พระองค์ประทานนามให้ว่าอิสราเอล
35. พระยาห์เวห์ทรงทำพันธสัญญากับเขาทั้งหลายและบัญชาเขาว่า “อย่ายำเกรงพระอื่นๆ หรือกราบนมัสการพระนั้น หรือปรนนิบัติ หรือถวายสัตวบูชาแก่พระนั้น
36. แต่เจ้าจงยำเกรงพระยาห์เวห์ ผู้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ด้วยฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ และด้วยพระกรที่เหยียดออก เจ้าจงนมัสการพระองค์ และจงถวายสัตวบูชาแด่พระองค์
37. และกฎเกณฑ์ กฎหมาย และธรรมบัญญัติ และพระบัญญัติซึ่งพระองค์ทรงจารึกสำหรับพวกเจ้า เจ้าจงระวังที่จะทำตามเสมอ เจ้าอย่ายำเกรงพระอื่นเลย
38. เจ้าอย่าลืมพันธสัญญาที่เราได้ทำไว้กับเจ้า และอย่ายำเกรงพระอื่นเลย
39. แต่เจ้าทั้งหลายจงยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า และพระองค์จะทรงช่วยกู้เจ้าให้พ้นมือศัตรูทั้งสิ้นของเจ้า”
40. พวกเขาไม่ได้ฟัง แต่ยังทำตามธรรมเนียมเดิมของตน
41. ดังนั้นประชาชาติเหล่านี้จึงยำเกรงพระยาห์เวห์ และปรนนิบัติรูปเคารพสลักของพวกเขาด้วย ลูกของพวกเขาก็เช่นเดียวกัน หลานของพวกเขาก็เช่นเดียวกัน บรรพบุรุษของพวกเขาทำอย่างไร พวกเขาก็ทำอย่างนั้นจนทุกวันนี้