5. และพระองค์ทรงแสวงหาพระเจ้า ในช่วงชีวิตของเศคาริยาห์ผู้ซึ่งแนะนำพระองค์ในการเห็นพระเจ้า และตราบเท่าที่พระองค์ทรงแสวงหาพระยาห์เวห์ พระเจ้าทรงทำให้พระองค์เจริญขึ้น
6. พระองค์เสด็จออกไปต่อสู้กับคนฟีลิสเตีย และทรงพังกำแพงเมืองกัท กำแพงเมืองยับเนห์ และกำแพงเมืองอัชโดด แล้วพระองค์ทรงสร้างเมืองต่างๆ ในเขตแดนอัชโดด และในที่อื่นๆ ของคนฟีลิสเตีย
7. พระเจ้าทรงช่วยพระองค์ในการต่อสู้กับคนฟีลิสเตีย และคนอาหรับ ที่อาศัยอยู่ในกูร์บาอัล ทั้งต่อสู้กับคนเมอูนี
8. คนอัมโมนก็ถวายบรรณาการแก่อุสซียาห์ และพระนามของพระองค์ก็เลื่องลือไปถึงเขตแดนอียิปต์ เพราะพระองค์ทรงเข้มแข็งขึ้นเป็นอย่างยิ่ง
9. ยิ่งกว่านั้นอุสซียาห์ทรงสร้างป้อมในกรุงเยรูซาเล็ม ที่ประตูมุม ที่ประตูหุบเขา และที่หัวเลี้ยว และป้องกันอย่างแข็งแรง
10. และพระองค์ทรงสร้างป้อมต่างๆ ไว้ในถิ่นทุรกันดาร ทรงสกัดที่ขังน้ำขึ้นหลายๆ แห่ง เพราะพระองค์ทรงมีฝูงปศุสัตว์ที่ใหญ่โตอยู่ในบริเวณเนินเชเฟลาห์และในที่ราบ และทรงมีชาวนาและคนแต่งต้นองุ่นในเนินเขา และในดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ เพราะพระองค์ทรงรักการเกษตร
11. ยิ่งกว่านั้นอีกอุสซียาห์ทรงมีนักรบที่สามารถออกศึกซึ่งออกไปเป็นกองๆ ตามจำนวนที่เยอีเอลราชเลขาและมาอาเสยาห์ เจ้าหน้าที่รวบรวมไว้ ภายใต้การควบคุมของฮานันยาห์ เจ้านายคนหนึ่งของพระราชา
12. บรรดาหัวหน้าตระกูลของพวกนักรบกล้าหาญมีจำนวนทั้งหมด 2,600 คน
13. และมีกองทัพ 307,500 คน ที่ทำศึกได้อย่างเข้มแข็ง ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาของคนเหล่านี้ เพื่อช่วยพระราชาต่อสู้ศัตรู
14. และอุสซียาห์ทรงจัดเตรียมโล่ หอก หมวก เสื้อเกราะ ธนู และก้อนหินสำหรับสลิงให้ทั้งกองทัพ
15. ในกรุงเยรูซาเล็มพระองค์ทรงทำเครื่องกลไกไว้บนป้อมและตามมุมโดยพวกช่างประดิษฐ์ เพื่อใช้ยิงลูกธนูและโยนก้อนหินใหญ่ๆ และพระนามของพระองค์ก็เลื่องลือไปไกล เพราะพระองค์ทรงได้รับความช่วยเหลืออย่างอัศจรรย์จนเข้มแข็ง
16. แต่เมื่อทรงเข้มแข็งแล้ว พระองค์ก็มีพระทัยผยองขึ้นจนทำให้เสื่อมลง เพราะพระองค์ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ และทรงเข้าไปเผาเครื่องหอมบนแท่นบูชาในพระวิหารของพระยาห์เวห์
17. แต่อาซาริยาห์ปุโรหิตเข้าไปตามหลังพระองค์ พร้อมกับปุโรหิตของพระยาห์เวห์ที่กล้าหาญอีก 80 คน
18. และเขาทั้งหลายขัดขวางกษัตริย์อุสซียาห์และทูลพระองค์ว่า “ข้าแต่อุสซียาห์ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่าพระบาทที่จะเผาเครื่องหอมถวายแด่พระยาห์เวห์ แต่เป็นหน้าที่ของปุโรหิตที่เป็นลูกหลานของอาโรน ผู้ซึ่งได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ไว้เพื่อเผาเครื่องหอม ขอฝ่าพระบาทเสด็จออกไปจากสถานนมัสการนี้ เพราะฝ่าพระบาททรงล่วงเกิน และฝ่าพระบาทจะไม่ได้รับเกียรติจากพระยาห์เวห์พระเจ้าเลย”
19. แล้วอุสซียาห์ก็กริ้ว พระองค์ทรงมีกระถางไฟอยู่ในพระหัตถ์ที่จะเผาเครื่องหอม และเมื่อพระองค์กริ้วต่อพวกปุโรหิต โรคเรื้อนก็เกิดขึ้นที่พระนลาฏต่อหน้าปุโรหิตในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ข้างแท่นเผาเครื่องหอม
20. และอาซาริยาห์มหาปุโรหิต และปุโรหิตทั้งหลายมองดูพระองค์ และดูสิ พระองค์ทรงเป็นโรคเรื้อนที่พระนลาฏ พวกเขาก็เร่งเร้าพระองค์ให้ออกจากที่นั่น และพระองค์เองก็รีบเสด็จออกไป เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงลงโทษพระองค์
21. และกษัตริย์อุสซียาห์ก็ทรงเป็นโรคเรื้อนจนถึงวันสิ้นพระชนม์ และเมื่อทรงเป็นโรคเรื้อนก็ประทับในวังที่แยกไว้ต่างหาก เนื่องจากพระองค์ทรงถูกตัดออกจากพระนิเวศของพระยาห์เวห์ แล้วโยธามพระราชโอรสของพระองค์ทรงเป็นผู้ดูแลพระราชสำนักและปกครองประชาชนของแผ่นดิน