2. อับซาโลมตื่นบรรทมแต่เช้าตรู่ ทรงยืนริมทางเข้าประตูเมือง ถ้าใครมีเรื่องถวายพระราชาให้ทรงตัดสิน อับซาโลมก็เรียกผู้นั้น ถามว่า “เจ้ามาจากเมืองไหน?” และเมื่อเขาทูลตอบว่า “ผู้รับใช้ของท่านเป็นคนเผ่าหนึ่งในอิสราเอล”
3. อับซาโลมจะบอกเขาว่า “ดูสิ คำร้องของเจ้าก็ดีและถูกต้อง แต่พระราชาไม่ได้ทรงตั้งใครไว้ฟังเจ้า”
4. อับซาโลมเคยกล่าวยิ่งกว่านั้นว่า “เออ ถ้าใครตั้งข้าเป็นผู้พิพากษาในแผ่นดินนี้ก็จะดี เมื่อใครมีข้อขัดแย้งหรือต้องการคำตัดสินจะได้มาหาข้า และข้าจะให้ความยุติธรรมแก่เขา”
5. เมื่อมีใครเข้ามาใกล้จะย่อตัวลงคำนับท่าน ท่านจะยื่นมือพยุงคนนั้นไว้และจูบเขา
6. อับซาโลมทำอย่างนี้แก่คนอิสราเอลทั้งหมด ที่มาเฝ้าพระราชาเพื่อขอการพิพากษา อับซาโลมก็ชนะใจบรรดาคนอิสราเอล
7. เมื่อล่วงมาได้ 4 ปี อับซาโลมทูลพระราชาว่า “ขอทรงอนุญาตให้ข้าพระบาทไปแก้บน ซึ่งข้าพระบาทได้บนไว้ต่อพระยาห์เวห์ที่เมืองเฮโบรน
8. เพราะว่าผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้บนไว้ เมื่อครั้งยังอยู่ในเมืองเกชูร์ประเทศซีเรียว่า ‘ถ้าพระยาห์เวห์ทรงนำข้าพระองค์กลับมายังกรุงเยรูซาเล็มจริงแล้ว ข้าพระองค์จะถวายนมัสการพระยาห์เวห์’ ”
9. พระราชาตรัสตอบท่านว่า “จงไปเป็นสุขเถิด” ท่านก็ลุกขึ้นไปยังเมืองเฮโบรน
10. แต่อับซาโลมได้ส่งผู้สื่อสารลับไปทั่วอิสราเอลทุกเผ่าว่า “พวกท่านได้ยินเสียงเขาสัตว์เมื่อไร จงกล่าวกันว่า ‘อับซาโลมเป็นกษัตริย์ที่เฮโบรน’ ”
11. มีชาย 200 คนไปกับอับซาโลมจากกรุงเยรูซาเล็ม เป็นคนที่ถูกเชิญไป คนเหล่านี้ไปอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่รู้เรื่องทั้งสิ้นเลย
12. ขณะเมื่ออับซาโลมถวายสัตวบูชาอยู่ ท่านส่งคนไปเชิญอาหิโธเฟลชาวกิโลห์ที่ปรึกษาของดาวิดมาจากเมืองของเขา คือกิโลห์ การคบคิดกันนั้นก็เพิ่มกำลังขึ้น คนที่มาฝักใฝ่อยู่กับอับซาโลมก็มากขึ้น
13. ผู้สื่อสารคนหนึ่งมาเฝ้าดาวิด ทูลให้ทรงทราบว่า “ใจของคนอิสราเอลคล้อยตามอับซาโลมไปแล้ว”
14. แล้วดาวิดรับสั่งแก่บรรดาข้าราชการที่อยู่กับพระองค์ ณ เยรูซาเล็มว่า “จงลุกขึ้น ให้เราหนีไปเถอะ มิฉะนั้นเราจะไม่มีทางหนีจากอับซาโลม จงรีบไป เกรงว่าเขาจะรีบมาและตามเราทันและนำเหตุร้ายมาถึงเรา และทำลายกรุงนี้เสียด้วยคมดาบ”
15. ข้าราชการของพระราชาจึงกราบทูลพระราชาว่า “ดูเถิด บรรดาผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทพร้อมจะทำตามสิ่งซึ่งพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทตัดสินพระทัยทุกประการ”
16. พระราชาก็เสด็จออกไปพร้อมกับคนทั้งหมดในราชสำนักของพระองค์ เว้นแต่นางสนม 10 คน ได้ทรงละไว้ให้เฝ้าพระราชวัง
17. พระราชาก็เสด็จออกไป ทหารทั้งสิ้นก็ตามพระองค์ไป และเสด็จประทับที่บ้านที่ห่างไกลออกไป
18. บรรดาข้าราชการทั้งสิ้นเดินผ่านด้านข้างพระองค์ไป บรรดาคนเคเรธีและคนเปเลทกับคนกัท 600 คนที่ติดตามพระองค์มาจากเมืองกัท เดินผ่านนำหน้าพระราชาไป
19. พระราชาจึงตรัสสั่งอิททัยคนกัทว่า “ทำไมเจ้าจะไปกับพวกเราด้วย? จงกลับไปอยู่กับพระราชา เพราะเจ้าเป็นคนต่างด้าว และถูกเนรเทศมาด้วย เจ้าจงกลับไปบ้านเมืองของเจ้าเถิด
20. เจ้าเพิ่งมาถึงเมื่อวานนี้ และวันนี้ควรที่เราจะให้เจ้าไปๆ มาๆ กับพวกเราหรือ? ด้วยเราไม่ทราบว่าจะไปที่ไหน? จงกลับไปเถิด พาพวกพี่น้องของเจ้ากลับไปด้วย ขอความรักมั่นคงและความสัตย์จริงจงอยู่กับเจ้าเถิด”