13. ดาวิดทรงเรียกเขามา เขาก็มารับประทานและดื่มเฉพาะพระพักตร์ และพระองค์ทรงทำให้เขามึนเมา ในตอนเย็นเขาก็ออกไปนอนกับพวกข้าราชการของเจ้านายของเขา แต่ไม่ได้ลงไปบ้านของเขา
14. พอรุ่งเช้าดาวิดทรงเขียนถึงโยอาบ และส่งไปกับมืออุรียาห์
15. ดาวิดทรงเขียนจดหมายนั้นว่า “จงตั้งอุรียาห์ให้อยู่กองหน้าของการรบที่ดุเดือดที่สุด แล้วให้พวกเจ้าถอยไปจากเขาเพื่อให้เขาถูกฆ่าตาย”
16. เมื่อโยอาบกำลังเฝ้าล้อมเมืองอยู่ ท่านจึงกำหนดให้อุรียาห์ไปที่ที่ท่านทราบว่ามีพวกทหารเข้มแข็งที่นั่น
17. คนของเมืองนั้นก็ออกมาสู้รบกับโยอาบ มีทหารบางคนคือทหารของดาวิดล้มตาย อุรียาห์คนฮิตไทต์ก็ตายด้วย
18. โยอาบจึงส่งคนไปทูลเรื่องการรบทั้งสิ้นให้ดาวิดทรงทราบ
19. ท่านกำชับผู้สื่อสารนั้นว่า “เมื่อเจ้าทูลเรื่องราวการรบทั้งสิ้นต่อพระราชาเสร็จแล้ว
20. ถ้าพระราชากริ้วขึ้นมาและตรัสถามเจ้าว่า ‘ทำไมพวกเจ้าจึงเข้ารบใกล้เมืองนั้น? พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าเขาจะยิงจากกำแพง?
21. ใครฆ่าอาบีเมเลคบุตรเยรุบเบเชท ไม่ใช่ผู้หญิงคนหนึ่งเอาหินโม่ท่อนบนทุ่มเขาจากกำแพงเมือง จนเขาตายที่เมืองเธเบศหรือ? ทำไมพวกเจ้าจึงเข้าไปใกล้กำแพง?’ ให้เจ้ากราบทูลว่า ‘อุรียาห์คนฮิตไทต์ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทก็ตายด้วย’ ”
22. ผู้สื่อสารก็ไป เขามาทูลดาวิดให้ทรงทราบทุกอย่างตามที่โยอาบส่งเขามา
23. ผู้สื่อสารนั้นกราบทูลดาวิดว่า “คนเหล่านั้นมีกำลังเหนือเรา และออกมาสู้กับเราที่กลางทุ่ง แต่เราไล่พวกเขาไปถึงทางเข้าประตูเมือง
24. แล้วทหารธนูก็ยิงทหารของฝ่าพระบาทจากกำแพง ทหารของพระราชาบางคนก็สิ้นชีวิต และอุรียาห์คนฮิตไทต์ทหารของฝ่าพระบาทก็สิ้นชีวิตด้วย”