12. พวกเขาได้ประกาศให้ถืออดอาหาร และได้ให้นาโบทนั่งในที่นั่งอันมีเกียรติท่ามกลางประชาชน
13. และคนอันธพาลสองคนนั้นก็เข้ามา นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา และคนถ่อยนั้นได้ฟ้องนาโบทต่อหน้าประชาชนกล่าวว่า “นาโบทได้แช่งพระเจ้าและพระราชา” เขาทั้งหลายจึงพานาโบทออกไปนอกเมือง และเอาหินขว้างเขาจนตาย
14. แล้วพวกเขาก็ส่งข่าวไปทูลเยเซเบลว่า “นาโบทถูกหินขว้างตายแล้ว”
15. พอเยเซเบลทรงได้ยินว่า นาโบทถูกหินขว้างตายแล้ว เยเซเบลจึงทูลอาหับว่า “ขอเชิญเสด็จไปยึดสวนของนาโบทชาวยิสเรเอล ซึ่งเขาได้ปฏิเสธไม่ขายแก่พระองค์ เพราะว่านาโบทไม่มีชีวิตอยู่ เขาตายแล้ว”
16. และต่อมาพออาหับได้ยินว่านาโบทตายแล้ว อาหับก็ทรงลุกขึ้น ลงไปยังสวนองุ่นของนาโบทชาวยิสเรเอลเพื่อยึดถือเป็นกรรมสิทธิ์
17. แล้วพระวจนะของพระยาห์เวห์มาถึงเอลียาห์ชาวทิชบีว่า
18. “จงลุกขึ้นไปพบอาหับพระราชาแห่งอิสราเอล ผู้อยู่ในกรุงสะมาเรีย ดูสิ เขาอยู่ในสวนของนาโบทที่เขาลงไปยึดเอาเป็นกรรมสิทธิ์
19. เจ้าจงพูดกับเขาว่า ‘พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “เจ้าได้ฆ่าและได้ยึดถือเอาเป็นกรรมสิทธิ์ด้วยหรือ?” ’ และเจ้าจงพูดกับเขาว่า ‘พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า “ในที่ที่สุนัขเลียโลหิตของนาโบท สุนัขจะเลียโลหิตของเจ้าด้วย” ’ ”
20. อาหับตรัสกับเอลียาห์ว่า “โอ ศัตรูของเรา เจ้าพบเราเข้าแล้วหรือ?” ท่านทูลตอบว่า “ข้าพระบาทพบฝ่าพระบาทเข้าแล้ว เพราะว่าฝ่าพระบาทยอมขายพระองค์เข้าทำสิ่งชั่วในสายพระเนตรพระยาห์เวห์
21. นี่แน่ะ เราจะนำเหตุร้ายมาเหนือเจ้า เราจะกวาดเจ้าออกไปเสียให้สิ้น และจะกำจัดผู้ชายทุกคนเสียจากอาหับในอิสราเอล ไม่ว่าทาสหรือไท
22. และเราจะทำให้ราชวงศ์ของเจ้าเหมือนราชวงศ์ของเยโรโบอัมบุตรเนบัท และเหมือนราชวงศ์ของบาอาชาบุตรอาหิยาห์ เพราะเจ้าทำให้เราโกรธ และเพราะเจ้าทำให้อิสราเอลทำบาปด้วย