6. แต่พรุ่งนี้ ประมาณเวลานี้ เราจะส่งข้าราชการของเราไปหาท่าน พวกเขาจะค้นวังของท่าน ค้นบ้านข้าราชการของท่าน สิ่งใดที่ต้องตาของท่านเขาจะหยิบเอาไป’ ”
7. แล้วกษัตริย์อิสราเอลได้เรียกประชุมพวกผู้ใหญ่ทั้งหมดของแผ่นดิน ตรัสว่า “ขอตรองดูเถิด ดูว่าชายผู้นี้หาเรื่องเดือดร้อนให้เราเพียงไร เพราะเขาให้คนมาเอาเมียและลูกของเรา ทั้งเงินและทองของเรา และเราก็ไม่ได้ปฏิเสธเขา”
8. บรรดาผู้ใหญ่และประชาชนทั้งสิ้นก็ทูลพระองค์ว่า “อย่าทรงฟัง อย่าทรงยอม พ่ะย่ะค่ะ”
9. พระองค์จึงรับสั่งแก่ผู้สื่อสารของเบนฮาดัดว่า “จงไปทูลพระราชาเจ้านายของเราว่า ‘ทุกสิ่งที่ท่านเรียกร้องจากผู้รับใช้ของท่านในครั้งแรกนั้น เราจะทำตาม แต่สิ่งนี้เราทำไม่ได้’ ” แล้วผู้สื่อสารก็จากไป และกลับมารายงาน
10. เบนฮาดัดส่งข่าวกลับมาอีกว่า “ถ้าผงคลีแห่งสะมาเรียจะพอแก่คนที่ติดตามเรามาสักคนละหยิบมือหนึ่ง ก็ขอให้พระทั้งหลายลงโทษเราและยิ่งหนักกว่า”
11. และกษัตริย์อิสราเอลตรัสตอบว่า “จงทูลท่านว่า ‘ขอท่านผู้ที่สวมเกราะ อย่าอวดอ้างอย่างผู้ที่ถอดเกราะแล้วเลย’ ”
12. เบนฮาดัดทราบข่าวนี้ ขณะที่กำลังดื่มอยู่กับบรรดากษัตริย์ที่ในเพิง ท่านก็สั่งพวกข้าราชการของท่านว่า “จงเข้าประจำที่” และเขาทั้งหลายก็เข้าประจำที่เพื่อต่อสู้กับเมืองนั้น
13. นี่แน่ะ ผู้เผยพระวจนะคนหนึ่ง เข้ามาใกล้อาหับกษัตริย์แห่งอิสราเอลทูลว่า “พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า เจ้าเห็นกองทัพใหญ่นี้หรือ? นี่แน่ะ เราจะมอบไว้ในมือของเจ้าในวันนี้ แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์”
14. และอาหับตรัสถามว่า “ทรงใช้ใครทำ?” เขาทูลว่า “พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า โดยมือของมหาดเล็กของเจ้านายประจำจังหวัดทั้งหลาย” แล้วอาหับตรัสว่า “ใครจะเริ่มรบ?” เขาทูลตอบว่า “ฝ่าพระบาท พ่ะย่ะค่ะ”
15. พระองค์จึงทรงเกณฑ์มหาดเล็กของเจ้านายประจำจังหวัดเหล่านั้น ซึ่งมี 232 คนด้วยกัน และภายหลังเกณฑ์ประชาชนทั้งสิ้น คือคนอิสราเอลทั้งหมด 7,000 คน
16. เขาทั้งหลายยกออกไปในเวลาเที่ยงวัน ส่วนเบนฮาดัดกำลังดื่มจนเมาอยู่ในเพิง ทั้งพระองค์และกษัตริย์อีก 32 องค์ที่ช่วยพระองค์