21. แต่เมื่อฮาดัดอยู่ในอียิปต์ได้ยินว่า ดาวิดล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์แล้ว และโยอาบผู้บัญชาการกองทัพก็สิ้นชีวิตแล้ว ฮาดัดจึงทูลฟาโรห์ว่า “โปรดให้ข้าพระบาทไป และข้าพระบาทจะกลับไปประเทศของข้าพระบาท”
22. แต่ฟาโรห์ตรัสกับท่านว่า “ท่านอยู่กับเรา ท่านขาดอะไรหรือ? ท่านจึงหาทางที่จะกลับไปประเทศของท่าน” และท่านทูลพระองค์ว่า “ไม่ขาดอะไร พ่ะย่ะค่ะ แต่ขอให้ข้าพระบาทไปเถิด”
23. พระเจ้าทรงให้ปฏิปักษ์อีกคนหนึ่งเกิดขึ้นต่อสู้ซาโลมอน คือเรโซนบุตรของเอลียาดา ผู้ที่หนีไปจากฮาดัดเอเซอร์กษัตริย์แห่งโศบาห์เจ้านายของตน
24. เมื่อดาวิดเข่นฆ่าชาวโศบาห์นั้น เรโซนได้รวบรวมผู้คนให้อยู่กับเขา และได้กลายเป็นหัวหน้ากองปล้น พวกเขาไปอาศัยอยู่ในเมืองดามัสกัส และครอบครองเมืองดามัสกัส
25. เขาเป็นปฏิปักษ์ของอิสราเอลตลอดรัชสมัยของซาโลมอน และก่อการร้ายเหมือนที่ฮาดัดได้ทำ และเขาเกลียดชังอิสราเอล และได้ปกครองซีเรีย
26. เยโรโบอัมบุตรเนบัท คนเอฟราอิม จากเมืองเศเรดาห์ ข้าราชการคนหนึ่งของซาโลมอน มารดาของท่านเป็นหญิงม่ายชื่อเศรุอาห์ ท่านได้กบฏต่อพระราชาด้วย
27. ต่อไปนี้เป็นสาเหตุที่ท่านกบฏต่อพระราชา คือซาโลมอนทรงสร้างป้อมมิลโล และอุดรอยแยกของกำแพงนครดาวิดพระราชบิดาของพระองค์
28. เยโรโบอัมเป็นนักรบกล้าหาญ เมื่อซาโลมอนทรงเห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นเป็นคนขยัน จึงตั้งให้ดูแลแรงงานทั้งสิ้นที่ถูกเกณฑ์มาจากพงศ์พันธุ์ของโยเซฟ
29. ต่อมาในเวลานั้นเมื่อเยโรโบอัมออกจากกรุงเยรูซาเล็ม อาหิยาห์ผู้เผยพระวจนะชาวชีโลห์ได้พบท่านกลางทาง อาหิยาห์คลุมกายด้วยเสื้อคลุมใหม่ และทั้งสองคนก็อยู่ลำพังในทุ่งนา
30. แล้วอาหิยาห์ก็จับเสื้อคลุมใหม่ที่สวมอยู่ฉีกออกเป็นสิบสองชิ้น