5. ดาวิดจึงใช้ชายหนุ่ม 10 คน และดาวิดพูดกับชายหนุ่มเหล่านั้นว่า “จงขึ้นไปที่คารเมลไปหานาบาล และคำนับเขาในนามของเรา
6. ให้พวกท่านพูดเช่นนี้ว่า ‘ชีวิตและสวัสดิภาพจงมีแก่ท่าน สวัสดิภาพจงมีแก่ครอบครัวของท่าน และสวัสดิภาพจงมีแก่ทุกสิ่งที่ท่านมี
7. ขณะนี้ข้าพเจ้าได้ยินว่าท่านมีคนตัดขนแกะอยู่ เมื่อพวกผู้เลี้ยงแกะของท่านอยู่กับเรา เราไม่ได้ทำอันตรายพวกเขาเลย และพวกเขาก็ไม่ได้ขาดอะไรไปตลอดเวลาที่อยู่ในคารเมล
8. ถามพวกคนหนุ่มของท่าน พวกเขาจะบอกท่าน เพราะฉะนั้นขอให้พวกคนหนุ่มของข้าพเจ้าได้รับความโปรดปรานจากท่าน เพราะเรามาในวันมีการเลี้ยง โปรดให้สิ่งที่พอหาได้ในตอนนี้แก่พวกผู้รับใช้ของท่านและแก่ดาวิดบุตรของท่าน’ ”
9. เมื่อพวกคนหนุ่มของดาวิดมาถึงก็กล่าวคำเหล่านั้นแก่นาบาลในนามของดาวิด และพวกเขาก็คอยอยู่
10. และนาบาลตอบพวกคนรับใช้ของดาวิดว่า “ดาวิดคือใคร? บุตรของเจสซีคือใคร? สมัยนี้มีคนใช้เป็นอันมากที่หนีไปจากนายของพวกเขา
11. ควรหรือที่ข้าจะนำขนมปังของข้า และน้ำของข้า และเนื้อของข้า ซึ่งข้าได้ฆ่าเสียสำหรับพวกคนตัดขนแกะของข้ามอบให้แก่พวกซึ่งมาจากที่ไหนข้าก็ไม่รู้?”
12. พวกคนหนุ่มของดาวิดก็หันกลับไปตามทาง และกลับมาบอกเรื่องราวทั้งสิ้นนี้แก่ดาวิด
13. และดาวิดสั่งพวกของท่านว่า “ทุกคนจงเอาดาบคาดเอวไว้” และทุกคนก็เอาดาบคาดเอวของตน และดาวิดก็เอาดาบคาดเอวด้วย มีคนตามดาวิดขึ้นไปประมาณ 400 คน ส่วนอีก 200 คนอยู่เฝ้ากองสัมภาระ
14. แต่มีคนหนึ่งในพวกคนหนุ่มบอกนางอาบีกายิลภรรยาของนาบาลว่า “ดูเถิด ดาวิดส่งพวกผู้สื่อสารมาจากถิ่นทุรกันดารเพื่ออวยพรนายของพวกเรา แต่นายกลับด่าว่าคนเหล่านั้น
15. แต่ชายเหล่านั้นดีต่อเรามาก เราไม่ถูกทำร้าย และไม่ขาดสิ่งใดตลอดเวลาที่เราไปกับพวกเขาเมื่อเราอยู่ในทุ่งนา
16. พวกเขาเป็นเหมือนกำแพงของเราทั้งกลางคืนและกลางวัน ตลอดเวลาที่เราเลี้ยงแกะอยู่กับพวกเขา
17. ขณะนี้ขอท่านทราบเรื่องและพิจารณาว่าท่านควรจะทำประการใด เพราะการร้ายถูกกำหนดต่อนายของเราแล้ว และต่อครัวเรือนทั้งสิ้นของนาย นายนั้นเป็นคนอันธพาล ใครจะพูดด้วยก็ไม่ได้”
18. แล้วนางอาบีกายิลก็รีบจัดขนมปัง 200 ก้อน และเหล้าองุ่น 2 ถุงหนัง และแกะที่ทำเสร็จแล้ว 5 ตัว และข้าวคั่ว 17 กิโลกรัม และลูกเกด 100 ช่อและขนมมะเดื่อ 200 แผ่นบรรทุกหลังลา
19. นางก็สั่งพวกคนหนุ่มของนางว่า “จงรีบไปก่อนเรา นี่แน่ะ เราจะตามเจ้าไป” แต่นางไม่ได้บอกนาบาลสามีของนาง