13. และซาอูลตรัสแก่เขาว่า “ทำไมพวกเจ้าจึงร่วมกันกบฏต่อเรา ทั้งเจ้าและบุตรของเจสซี ในการที่เจ้าให้ขนมปังและดาบแก่เขา และทูลถามพระเจ้าให้เขา? เขาจึงลุกขึ้นต่อสู้เรา และคอยซุ่มดักเราอยู่อย่างทุกวันนี้”
14. และอาหิเมเลคทูลตอบพระราชาว่า “ในบรรดาข้าราชการของฝ่าพระบาท มีใครเล่าที่จะซื่อสัตย์อย่างดาวิด ราชบุตรเขยของพระราชาผู้บังคับบัญชาทหารราชองครักษ์ และเป็นผู้มีเกียรติในพระราชสำนักของฝ่าพระบาท?
15. วันนั้นข้าพระบาททูลขอพระเจ้าครั้งแรกเพื่อเขาจริงหรือ? ไม่เป็นเช่นนั้นแน่ ขอพระราชาอย่าทรงกล่าวโทษสิ่งใดต่อผู้รับใช้ของพระองค์ หรือพงศ์พันธุ์ทั้งสิ้นของบิดาของข้าพระบาท เพราะผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทไม่ทราบเรื่องทั้งหมดนี้เลยไม่ว่ามากหรือน้อย”
16. พระราชาตรัสว่า “อาหิเมเลค เจ้าจะต้องตายแน่ ทั้งเจ้าและพงศ์พันธุ์ทั้งสิ้นของบิดาเจ้าด้วย”
17. และพระราชาก็รับสั่งแก่ราชองครักษ์ผู้ยืนเฝ้าอยู่ว่า “จงหันมาฆ่าพวกปุโรหิตของพระยาห์เวห์เสีย เพราะว่ามือของพวกเขาอยู่กับดาวิด และเพราะพวกเขารู้แล้วว่ามันหนีไป แต่ไม่แจ้งให้เรารู้” แต่พวกข้าราชการของพระราชาไม่ยอมลงมือฆ่าพวกปุโรหิตของพระยาห์เวห์
18. แล้วพระราชาจึงตรัสกับโดเอกว่า “เจ้าจงหันไปฆ่าปุโรหิตเหล่านั้น” โดเอกคนเอโดมก็หันไปฟันบรรดาปุโรหิต ในวันนั้น เขาฆ่าชายที่สวมเอโฟดผ้าป่านเสีย 85 คน
19. และเขาประหารชาวเมืองโนบ ซึ่งเป็นเมืองของปุโรหิตเสียด้วยคมดาบ ฆ่าทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก และเด็กกินนม โค ลาและแกะด้วยคมดาบ