2. ดาวิดจึงพูดกับอาหิเมเลคปุโรหิตว่า “พระราชาทรงบัญชาข้าพเจ้าให้ทำเรื่องหนึ่ง ทรงรับสั่งแก่ข้าพเจ้าว่า ‘อย่าให้ใครรู้อะไรถึงเรื่องที่เราใช้เจ้าไปทำนั้น และด้วยเรื่องซึ่งเราได้บัญชาเจ้านั้น’ ข้าพเจ้าได้นัดหมายไว้กับพวกคนหนุ่ม ณ ที่แห่งหนึ่ง
3. เวลานี้ท่านมีอะไรอยู่บ้าง ให้ขนมปังข้าพเจ้าสักห้าก้อน หรืออะไรที่ท่านหาได้”
4. ปุโรหิตนั้นตอบดาวิดว่า “ข้าพเจ้าไม่มีขนมปังธรรมดาเลย แต่มีขนมปังบริสุทธิ์ ขอแต่พวกคนหนุ่มได้อยู่ห่างจากผู้หญิงมาก็แล้วกัน”
5. และดาวิดตอบปุโรหิตว่า “ที่จริงเมื่อพวกเราออกไปปฏิบัติงาน ผู้หญิงก็ถูกกันให้ห่างจากพวกเราเหมือนครั้งก่อนๆ ที่ข้าพเจ้าออกไป แม้การเดินทางธรรมดา กายของพวกคนหนุ่มก็บริสุทธิ์อยู่แล้ว ยิ่งวันนี้กายของพวกเขาก็ยิ่งบริสุทธิ์กว่า”
6. ดังนั้นปุโรหิตจึงมอบขนมปังบริสุทธิ์ให้แก่ดาวิด เพราะที่นั่นไม่มีขนมปังอื่นนอกจากขนมปังเฉพาะพระพักตร์ ซึ่งเก็บมาจากเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ เพื่อวางขนมปังใหม่ในวันที่เก็บเอาขนมปังเก่านั้นออกไป
7. ในวันนั้นมีชายที่เป็นผู้รับใช้คนหนึ่งของซาอูลอยู่ที่นั่น ถูกจำกัดให้เฝ้าพระยาห์เวห์อยู่ เขาชื่อโดเอก คนเอโดม เป็นหัวหน้าคนเลี้ยงสัตว์ของซาอูล
8. และดาวิดพูดกับอาหิเมเลคว่า “ที่นี่ท่านไม่มีหอกหรือดาบติดมืออยู่สักเล่มหนึ่งหรือ? ด้วยข้าพเจ้าไม่ได้นำดาบหรือเครื่องอาวุธติดมาเลย เพราะราชการของพระราชาเป็นเรื่องด่วน”
9. ปุโรหิตนั้นจึงกล่าวว่า “ดาบของโกลิอัทคนฟีลิสเตีย ซึ่งท่านฆ่าที่หุบเขาเอลาห์นั้น ดูสิ ยังถูกผ้าห่ออยู่ที่ข้างหลังเอโฟด ถ้าท่านจะเอาดาบนั้น จงเอาไปเถิด นอกจากเล่มนี้แล้วก็ไม่มีดาบอื่นอีก” และดาวิดพูดว่า “ไม่มีดาบอื่นเหมือนดาบเล่มนั้นแล้ว เอาให้ข้าพเจ้าเถิด”
10. และดาวิดก็ลุกขึ้นในวันนั้น หนีจากซาอูลไปหาอาคีชกษัตริย์เมืองกัท
11. และพวกมหาดเล็กของอาคีชทูลว่า “ดาวิดคนนี้ไม่ใช่หรือที่เป็นกษัตริย์ของแผ่นดินนั้น? พวกเขาไม่ได้ร้องเพลงและเต้นรำหรือว่า‘ซาอูลฆ่าคนเป็นพันๆและดาวิดฆ่าคนเป็นหมื่นๆ’? ”
12. และดาวิดก็เก็บถ้อยคำเหล่านี้ไว้ในใจและกลัวอาคีชกษัตริย์เมืองกัทยิ่งนัก
13. ท่านจึงเปลี่ยนอากัปกิริยาต่อหน้าพวกเขา และทำตนเป็นคนบ้าเมื่ออยู่ในอำนาจของพวกเขา เที่ยวกาไว้ที่ประตูรั้ว และปล่อยให้น้ำลายไหลลงเปรอะเครา