3. อย่าพร่ำพูดเย่อหยิ่งโอหังอีกต่อไปอย่าให้ความจองหองออกมาจากปากของพวกเจ้าเพราะพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงรู้ผู้ตรวจการกระทำทั้งหลาย
4. คันธนูของนักรบก็หักแต่คนอ่อนแอก็ได้รับการเสริมกำลัง
5. บรรดาคนที่เคยกินอิ่มก็ต้องออกรับจ้างหากินแต่บรรดาคนที่หิวก็หยุดหิวคนที่เป็นหมันมีบุตรเจ็ดคนแต่นางที่มีบุตรมากก็ร่วงโรยไป
6. พระยาห์เวห์ทรงประหารและทรงให้มีชีวิตพระองค์ทรงนำลงไปถึงแดนคนตายและทรงนำขึ้นมา
7. พระยาห์เวห์ทรงทำให้ยากจนและทรงทำให้มั่งคั่งทรงทำให้ต่ำลงและทรงยกขึ้น
8. ทรงยกคนยากจนขึ้นจากผงคลีทรงยกคนขัดสนขึ้นจากกองขี้เถ้าทรงทำให้พวกเขานั่งร่วมกับพวกเจ้านายและได้ที่นั่งอันมีเกียรติเป็นมรดกเพราะว่าบรรดาเสาแห่งพิภพเป็นของพระยาห์เวห์พระองค์ทรงวางพิภพไว้บนเสาเหล่านั้น
9. “พระองค์จะทรงดูแลย่างเท้าของธรรมิกชนของพระองค์แต่คนอธรรมจะต้องถูกทำลายในความมืดเพราะว่ามนุษย์จะชนะด้วยกำลังของเขาก็หาไม่
10. บรรดาผู้ต่อสู้พระยาห์เวห์จะถูกทำลายพระองค์จะทรงส่งฟ้าร้องจากสวรรค์ต่อสู้เขาพระยาห์เวห์จะทรงพิพากษาจนสุดปลายพิภพพระองค์จะประทานกำลังแก่พระราชาของพระองค์และจะทรงเสริมอำนาจของผู้ที่พระองค์ทรงเจิมไว้”
11. แล้วเอลคานาห์ก็กลับไปบ้านของเขาที่รามาห์ และเด็กนั้นก็ปรนนิบัติพระยาห์เวห์ต่อหน้าเอลีปุโรหิต
12. บุตรทั้งสองของเอลีเป็นคนอันธพาล ไม่รู้จักพระยาห์เวห์
13. ธรรมเนียมของพวกปุโรหิตที่มีต่อประชาชนเป็นอย่างนี้ เมื่อมีประชาชนคนใดถวายเครื่องสัตวบูชา คนใช้ของปุโรหิตจะเข้ามา มือถือสามง่าม ขณะเมื่อเนื้อกำลังต้มอยู่
14. เขาจะเอาสามง่ามแทงเข้าไปในกระทะ หรือหม้อหู หรือหม้อทะนน หรือหม้อธรรมดา สามง่ามติดอะไรขึ้นมา ปุโรหิตก็เอาสิ่งนั้นไปเป็นของตน พวกเขาทำเช่นนั้นแก่คนอิสราเอลทุกคนที่มาเมืองชิโลห์
15. ยิ่งกว่านั้น ก่อนที่พวกเขาเผาไขมัน คนใช้ของปุโรหิตเข้ามากล่าวแก่ชายผู้ทำสัตวบูชาว่า “ขอเนื้อไปให้ปุโรหิตทอด ท่านไม่รับเนื้อต้มจากเจ้า ท่านต้องการเนื้อดิบ”
16. และถ้าชายคนนั้นกล่าวแก่เขาว่า “พวกเขาต้องเผาไขมันก่อนจริงๆ แล้วจงเอาไปตามชอบใจเถิด” เขาจะตอบว่า “ไม่ได้ เจ้าต้องให้เดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ให้ข้าก็จะใช้กำลังเอาไป”