11. ซามูเอลทูลว่า “ท่านได้ทำอะไรไปแล้วนี่?” และซาอูลตรัสตอบว่า “เมื่อข้าพเจ้าเห็นประชาชนแตกกระจายไปจากข้าพเจ้า และท่านก็ไม่ได้มาภายในวันที่กำหนดไว้ และพวกฟีลิสเตียก็ชุมนุมกันที่มิคมาช
12. ข้าพเจ้าจึงว่า ‘บัดนี้ พวกฟีลิสเตียจะยกมารบกับข้าพเจ้าที่กิลกาล และข้าพเจ้ายังไม่ได้ทูลวิงวอนเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์’ ข้าพเจ้าจึงบังคับตัวเองขึ้นไปถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัว”
13. และซามูเอลทูลซาอูลว่า “ท่านได้ทำการที่โง่เขลา ท่านไม่ได้รักษาพระบัญชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาท่านไว้ เพราะพระยาห์เวห์จะได้ทรงสถาปนาราชอาณาจักรของท่านเหนืออิสราเอลตลอดไป
14. แต่บัดนี้ราชอาณาจักรของท่านจะไม่ยั่งยืน พระยาห์เวห์ทรงหาชายอีกคนหนึ่งตามชอบพระทัยพระองค์แล้ว และพระยาห์เวห์ทรงแต่งตั้งชายผู้นั้นให้เป็นเจ้านายเหนือชนชาติของพระองค์ เพราะท่านไม่ได้รักษาสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงบัญชาท่านไว้”
15. และซามูเอลก็ลุกขึ้นไปจากกิลกาลถึงกิเบอาห์แห่งเผ่าเบนยามิน และซาอูลทรงนับพลซึ่งอยู่กับพระองค์ได้ชายประมาณ 600 คน
16. ซาอูลกับโยนาธานราชโอรสของพระองค์ และทหารที่อยู่กับทั้งสองพระองค์ก็อยู่ในเกบาแห่งเผ่าเบนยามิน แต่พวกฟีลิสเตียตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาช
17. มีกองปล้นออกมาจากค่ายพวกฟีลิสเตียสามกอง กองหนึ่งหันไปทางโอฟราห์สู่แผ่นดินชูอัล
18. อีกกองหนึ่งหันไปทางเบธโฮโรน และอีกกองหนึ่งหันไปทางพรมแดนซึ่งอยู่เหนือหุบเขาเศโบยิมตรงถิ่นทุรกันดาร
19. คราวนั้นจะหาช่างเหล็กทั่วแผ่นดินอิสราเอลก็ไม่มี เพราะพวกฟีลิสเตียกล่าวว่า “เกรงว่าพวกฮีบรูจะทำดาบหรือหอก”
20. แต่คนอิสราเอลทั้งปวงลงไปหาพวกฟีลิสเตียเพื่อลับผาล พลั่ว ขวานและเคียวของเขา
21. ค่าลับนั้นสองส่วนสามเชเขลสำหรับลับผาล และพลั่ว และหนึ่งส่วนสามเชเขลสำหรับสามง่าม ขวานและติดประตัก
22. เพราะฉะนั้น เมื่อถึงวันทำศึกจะหาดาบหรือหอกในมือของทหารที่อยู่กับซาอูลและโยนาธานก็ไม่ได้ แต่ซาอูลกับโยนาธานราชโอรสของพระองค์มี