4. และท่านบัญชาเขาว่า “ดูเถิด ท่านจงซุ่มอยู่ข้างหลังเมือง อย่าให้ห่างไกลจากเมืองนัก และให้เตรียมตัวไว้พร้อมทุกคน
5. ส่วนตัวเราและประชาชนทั้งหมดที่อยู่กับ เราจะเข้าไปถึงตัวเมือง และเมื่อเขาออกมาต่อสู้เราอย่างคราวก่อน เราก็จะถอยหนีจากเขา
6. เขาจะตามเราออก มาจนเราจะได้ลวงเขาให้ออกมาห่างจากตัวเมือง เพราะเขาจะพูดว่า ‘เขาทั้งหลายกำลังหนีจากเราอย่างคราวก่อน’ ฉะนี้เราจะหนีเขาเรื่อยมา
7. แล้วท่านทั้งหลายจงลุกจากที่ซุ่มซ่อนเข้ายึดเมืองนั้นไว้ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงมอบเมือง นั้นไว้ในมือท่านแล้ว
8. และเมื่อท่านทั้งหลายเข้ายึดเมืองได้แล้ว ท่านจงจุดไฟเผาเมืองเสีย จงกระทำตามที่พระเจ้าตรัสสั่ง ดูแน่ะข้าพเจ้าได้บัญชาท่านไว้แล้ว”
9. แล้วโยชูวาก็ให้เขาไป เขาก็ออกไปยังที่ซุ่มอยู่ระหว่างเบธเอลกับ เมืองอัยทางทิศตะวันตกของเมืองอัย แต่คืนวันนั้นโยชูวานอนค้างอยู่กับประชาชน
10. โยชูวาตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่ก็ออกตรวจพล แล้วขึ้นไปพร้อมกับพวกผู้ใหญ่ของอิสราเอล นำหน้าพลไปเมืองอัย
11. ทหารที่อยู่กับท่านทุกคนก็ขึ้นไปแล้วรุกใกล้ตัวเมืองเข้าไป และตั้งค่ายอยู่ด้านเหนือของเมืองอัย มีห้วยคั่นระหว่างเขากับเมืองอัย
12. และท่านจัดคนประมาณห้าพันคน ให้เขาแอบซุ่มอยู่ระหว่างเมือง เบธเอลกับเมืองอัยทางทิศตะวันตกของตัวเมือง
13. ดังนั้นเขาทั้งหลายก็วางกำลังรบให้ กองหลวงอยู่ด้านเหนือของเมือง และกองระวังหลังอยู่ด้านตะวันตกของเมือง ในคืนวันนั้นโยชูวานอนอยู่ในหุบเขา
14. เมื่อกษัตริย์เมืองอัยเห็นดังนั้น ชาวเมืองก็ลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ออกไป สู้รบกับอิสราเอล ณ ที่ปะทะกันหน้าอาราบาห์ ทั้งท่านและประชาชนทั้งหมดของท่าน แต่ท่านไม่ทราบว่ามีกองซุ่มคอยอยู่ต่อสู้ท่านข้างหลังเมือง
15. โยชูวาจึงแสร้งทำเป็นแพ้ฝีมือของเขา แล้วหนีตรงไปยังทางถิ่นทุรกันดาร