13. จงลุกขึ้นชำระประชาชนให้บริสุทธิ์และกล่าวว่า ‘จงชำระตัวเสีย เพื่อวันพรุ่งนี้ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของคนอิสราเอลกล่าวเช่นนี้ว่า “โอ อิสราเอลเอ๋ย มีสิ่งของที่ต้องถวายอยู่ในหมู่พวกเจ้า เจ้าจะยืนหยัดต่อสู้ศัตรูของเจ้าไม่ได้ จนกว่าเจ้าจะนำสิ่งของที่ต้องถวายนั้น ออกเสียจากหมู่พวกเจ้า”
14. พอรุ่งเช้าเจ้าทั้งหลายจงเข้ามาทีละเผ่า เผ่าใดที่พระเจ้าทรงเลือกจับไว้ก็ต้องเข้ามาทีละตระกูล ตระกูลใดที่พระเจ้าทรงเลือกจับไว้ก็ให้เข้ามาทีละ ครอบครัว ครอบครัวใดที่พระเจ้าทรงเลือกจับไว้ก็ให้เข้ามาทีละคน
15. ผู้ใดถูกจับว่ามีของต้องถวาย ก็ต้องถูกเผาเสียด้วยไฟ ทั้งตัวเขาและสารพัดที่เป็นของเขา เพราะเขาได้ละเมิดพันธสัญญาของพระเจ้า และเพราะเขาได้กระทำสิ่งที่น่าอายในอิสราเอล’ ”
16. โยชูวาจึงลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ และนำคนอิสราเอลเข้ามาทีละเผ่า และพระเจ้าทรงเลือกเผ่ายูดาห์
17. จึงนำตระกูลในเผ่ายูดาห์เข้ามา และตระกูลเศ-ราห์ถูกทรงเลือก แล้วจึงนำตระกูลเศ-ราห์มาทีละคนและศับดีถูกทรงเลือก
18. และนำครอบครัวของท่านเข้ามาทีละคน และคนที่ถูกทรงเลือกคืออาคานบุตรคารมี ผู้เป็นบุตรศับดีผู้เป็นบุตรเศ-ราห์ เผ่ายูดาห์
19. ฝ่ายโยชูวาจึงกล่าวแก่อาคานว่า “ลูกเอ๋ย จงถวายพระสิริแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล และถวายสรรเสริญแด่พระองค์ จงบอกข้ามาว่าเจ้าได้กระทำอะไรไป อย่าปิดบังไว้ จากข้าเลย”
20. และอาคานตอบโยชูวาว่า “เป็นความจริงแล้วที่ข้าพเจ้าได้กระทำบาปต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล ข้าพเจ้าได้กระทำดังนี้
21. ในหมู่ของที่ริบมา ข้าพเจ้าได้เห็นเสื้อคลุมงามตัวหนึ่ง ของเมืองบาบิโลนกับเงินสองร้อยเชเขล และทองคำแท่งหนึ่งหนักห้าสิบเชเขล ข้าพเจ้าก็โลภอยากได้ของเหล่านั้น ข้าพเจ้าจึงเอามา ดูเถิด ของเหล่านั้นซ่อนอยู่ใต้ดินในเต็นท์ของข้าพเจ้า เงินนั้นอยู่ข้างล่าง”
22. ฝ่ายโยชูวาก็ให้ผู้สื่อสารออกไปและเขาทั้งหลายก็ วิ่งไปที่เต็นท์ ดูเถิด ของนั้นฝังอยู่ภายในเต็นท์ของเขา มีเงินอยู่ข้างล่าง
23. เขาก็เอาออกมาจากเต็นท์นำไปให้โยชูวาและ คนอิสราเอลทั้งปวง แล้วเขาก็วางของเหล่านั้นลงต่อพระพักตร์พระเจ้า
24. และโยชูวากับบรรดาคนอิสราเอลจึงพาอาคานบุตรเศ-ราห์ พร้อมกับเงิน เสื้อคลุมตัวนั้น และทองแท่งนั้น ทั้งบุตรชายหญิงของเขา ทั้งวัว ลา แพะ แกะ และเต็นท์ของเขาทุกสิ่งที่เขามีอยู่ และนำคนกับของทั้งหมดขึ้นไปยังหุบเขาอาโคร์