3. เขาไล่ต้อนลาของคนกำพร้าไปเขาเอาวัวของหญิงม่ายไปเป็นประกัน
4. เขาผลักคนขัดสนออกนอกถนนคนยากจนแห่งแผ่นดินโลกต่างก็ซ่อนตัวหมด
5. ดูเถิด ดังลาป่าอยู่ในถิ่นทุรกันดารคนยากจนนั้นออกไปทำงานพยายามหาอาหารถิ่นแห้งแล้งให้อาหารแก่บุตรของเขา
6. เขาทั้งหลายเก็บหญ้าแห้งที่ในทุ่งและเขาเล็มสวนองุ่นของคนอธรรม
7. เขานอนเปลือยกายไม่มีเสื้อผ้าตลอดคืนและไม่มีผ้าห่มกันหนาว
8. เขาเปียกฝนแห่งภูเขาและเกาะหินอยู่เพราะขาดที่กำบัง
9. มีผู้ฉวยเด็กกำพร้าไปจากอกและเอาทารกของคนยากจนไปเป็นประกัน
10. เขาทั้งหลายจึงเดินเปลือยกายไป ไม่มีเสื้อผ้าทั้งๆที่หิว เขาก็แบกฟ่อนข้าวไป
11. เขาทำน้ำมันอยู่ท่ามกลางแถวต้นมะกอกเทศของคนอธรรมเขาย่ำอยู่ที่บ่อย่ำองุ่น แต่เขาต้องทนความกระหาย
12. คนที่กำลังจะตายคร่ำครวญออกมาจากที่ในเมืองและจิตใจของคนบาดเจ็บร้องขอความช่วยเหลือแต่พระเจ้ามิได้สนพระทัยในคำอธิษฐานของเขา
13. “มีผู้ที่กบฏต่อความสว่างผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับทางของความสว่างนั้นและมิได้อยู่ในทางของความสว่างนั้น
14. ผู้ทำฆาตกรรมลุกขึ้นมาแต่เช้าตรู่เขาฆ่าคนยากจนและคนขัดสนและในกลางคืนเขาเป็นเหมือนขโมย
15. ตาของผู้ล่วงประเวณีคอยเวลาพลบค่ำกล่าวว่า ‘ไม่มีตาใดจะเห็นข้า’และเขาก็ปลอมหน้าของเขา
16. ในยามมืดเขาขุดเข้าไปในเรือนกลางวันเขาก็เก็บตัวเขาไม่รู้จักความสว่าง
17. เพราะความมืดทึบเป็นเหมือนเวลาเช้าแก่เขาทุกคนเพราะเขาคุ้นเคยกับความสยดสยองของความมืดทึบ
18. “เขาลอยละลิ่วไปบนผิวน้ำส่วนแบ่งของเขาถูกสาปในแผ่นดินเขาไม่หันหน้าไปสู่สวนองุ่นของเขา
19. ความแห้งแล้งและความร้อนฉวยเอาน้ำหิมะไปฉันใดแดนคนตายก็ฉวยเอาผู้กระทำบาปไปฉันนั้น
20. ครรภ์จะลืมเขาตัวหนอนจะกินเขาอย่างอร่อยไม่มีใครจำชื่อเขาได้ต่อไปความอธรรมจึงหักลงเหมือนต้นไม้
21. “เขารีดเอาจากหญิงหมันที่ไม่มีลูกและไม่ทำดีอะไรให้แก่หญิงม่าย
22. พระเจ้ายังทรงธำรงชีวิตของคนมี กำลังด้วยฤทธานุภาพของพระองค์แม้เขาสิ้นหวังในชีวิต เขาก็ลุกขึ้นได้