2. เราจะให้เจ้าหันกลับและขับเจ้าให้รุดไป และให้เจ้าขึ้นมาจากส่วนเหนือที่สุด และให้เจ้าเข้าไปต่อสู้ภูเขาทั้งหลายแห่งอิสราเอล
3. แล้วเราจะตีคันธนูให้หลุดจากมือซ้ายของเจ้า และเราจะให้ลูกธนูตกจากมือขวาของเจ้า
4. เจ้าจะล้มลงบนภูเขาแห่งอิสราเอล ทั้งเจ้าและกองทัพทั้งสิ้นของเจ้า และชนชาติทั้งหลายที่อยู่กับเจ้า เราจะมอบเจ้าให้เป็นอาหารแก่เหยี่ยว ทุกชนิดและแก่สัตว์ป่าทุ่ง
5. พระเจ้าตรัสว่า เจ้าจะล้มลงบนพื้นทุ่ง เพราะเราได้ลั่นวาจาแล้ว
6. เราจะส่งเพลิงมาเหนือมาโกก และเหนือผู้ที่อาศัยอยู่อย่างปลอดภัยตามแผ่นดินชายทะเล และเขาทั้งหลายจะทราบว่าเราคือพระเจ้า
7. “และเราจะกระทำให้นามบริสุทธิ์ของเราเป็น ที่รู้จักในท่ามกลางอิสราเอลประชากรของเรา เราจะไม่ยอมให้นามบริสุทธิ์ของเราสาธารณ์อีกต่อไป และประชาชาติทั้งหลายจะทราบว่า เราคือพระเจ้า องค์บริสุทธิ์ในอิสราเอล
8. พระเจ้าตรัสว่า ดูเถิด มาแล้ว และจะเป็นอย่างนั้น คือ วันนั้นซึ่งเราได้ลั่นวาจาไว้
9. “แล้วบรรดาคนเหล่านั้นที่อาศัย อยู่ในบรรดาหัวเมืองอิสราเอลจะออกไป และเอาไฟสุมเครื่องอาวุธเผาเสียคือดั้งและโล่ คันธนูและลูกธนู หอกยาวและหอกซัด และเขาจะเอาไฟสุมเป็นเวลาเจ็ดปี
10. เพราะฉะนั้น เขาไม่จำเป็นจะต้องเอาฟืนมาจากทุ่งนา หรือตัดฟืนมาจากป่า เพราะเขาจะก่อไฟด้วยเครื่องอาวุธ และเขาทั้งหลายจะแย่งชิงผู้ที่แย่งชิงเขา และจะปล้นผู้ที่ปล้นเขา พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
11. “ในวันนั้น เราจะให้โกกมีสุสานอยู่ในอิสราเอล คือหุบเขาของคนเดินผ่านไปมา ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของทะเล มันจะกีดขวางคนเดินผ่านไปมา เพราะว่าโกกและหมู่นิกรทั้งสิ้นของท่านจะถูกฝังไว้ที่นั่น เขาจะเรียกกันว่า หุบเขาฮาโมนโกก4
12. พงศ์พันธุ์อิสราเอลจะฝังเขาทั้งหลายอยู่ถึงเจ็ดเดือน เพื่อจะทำให้แผ่นดินนั้นสะอาด
13. พระเจ้าตรัสว่า ราษฎรทุกคนจะฝังเขาทั้งหลาย ในวันนั้นเมื่อเราสำแดงพระสิริของเรา ประชาชนนั้นจะได้รับเกียรติเพราะการฝังศพนั้น
14. เขาทั้งหลายจะตั้งคนให้เดินผ่านไปมาในแผ่นดินเรื่อยไป ให้ฝังศพคนเหล่านั้นที่เหลืออยู่บนพื้นแผ่นดิน เพื่อจะทำแผ่นดินให้สะอาด เขาจะออกตรวจค้นเมื่อสิ้นเจ็ดเดือนแล้ว
15. เมื่อคนเหล่านั้นผ่านไปมาในแผ่นดิน ถ้าใครเห็นกระดูกคนเข้า เขาจะเอาเครื่องหมายปักไว้ข้างกระดูกนั้น จนกว่าคนฝังจะมาฝังเขาไว้ในหุบเขาฮาโมนโกก