2. “จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่าเมื่อผู้ใดบนเป็นพิเศษไว้ บุคคลผู้ที่ถูกบนไว้นั้นเจ้าต้องนับว่าเขาเป็นของพระเจ้า
3. ให้เจ้ากำหนดราคาดังนี้ ผู้ชายอายุตั้งแต่ยี่สิบถึงหกสิบปีจะเป็นค่าเงิน ห้าสิบเชเขลตามเชเขลของสถานนมัสการ
4. ถ้าผู้นั้นเป็นผู้หญิง ให้เจ้ากำหนดราคาเป็นค่าเงินสามสิบเชเขล
5. ถ้าผู้นั้นอายุห้าขวบถึงยี่สิบ ให้เจ้ากำหนดราคาผู้ชายเป็นค่าเงินยี่สิบเชเขล และผู้หญิงสิบเชเขล
6. ถ้าผู้นั้นอายุหนึ่งเดือนถึงห้าขวบให้เจ้า กำหนดราคาผู้ชายเป็นค่าเงินห้าเชเขล ให้เจ้ากำหนดราคาผู้หญิงเป็นค่าเงินสามเชเขล
7. ถ้าเป็นบุคคลอายุตั้งแต่หกสิบปีขึ้นไป ให้เจ้ากำหนดราคาผู้ชายเป็นค่าเงินสิบห้าเชเขล และผู้หญิงเป็นสิบเชเขล
8. ถ้าผู้ชายคนใดยากจนเกินที่จะชำระตามที่เจ้ากำหนดราคา ก็ให้นำผู้ถูกบนไปหาปุโรหิต ให้ปุโรหิตกำหนดราคาตามกำลังของผู้ที่บน ปุโรหิตจะกำหนดราคาของคนนั้น
9. “ถ้าเป็นสัตว์อย่างที่มนุษย์นำมาถวายพระเจ้า สิ่งใดๆ ที่มนุษย์ถวายแด่พระเจ้าถือว่าเป็นของบริสุทธิ์
10. อย่าให้เขานำอะไรมาแทนหรือเปลี่ยนเอาดีมาเปลี่ยนไม่ดี หรือเอาไม่ดีมาเปลี่ยนดี ถ้าเขาทำการเปลี่ยนสัตว์ ทั้งตัวที่นำมาเปลี่ยนและตัวที่ถูก เปลี่ยนจะต้องบริสุทธิ์
11. ถ้าเป็นสัตว์มลทินซึ่งไม่พึงนำมาถวายแด่พระเจ้า ให้ผู้นั้นนำสัตว์ตัวนั้นไปหาปุโรหิต
12. แล้วปุโรหิตจะตีค่าว่าเป็นของดีของไม่ดี ท่านผู้เป็นปุโรหิตกำหนดราคาเท่าใดก็ให้เป็นเท่านั้น
13. ถ้าเขาจะมาไถ่สัตว์นั้นก็ให้เขาเพิ่มอีกหนึ่งใน ห้าของราคาที่ตีไว้
14. “เมื่อคนใดถวายเรือนของตนไว้ เป็นของบริสุทธิ์แด่พระเจ้า ปุโรหิตต้องกำหนดราคาตามดีไม่ดี ปุโรหิตกำหนดราคาเท่าใดก็ให้เป็นเท่านั้น
15. ถ้าผู้ที่ถวายเรือนไว้ประสงค์จะไถ่เรือนของเขา ก็ให้ผู้นั้นเพิ่มเงินอีกหนึ่งในห้าของราคาเรือนที่ตีไว้ แล้วเรือนนั้นจึงตกเป็นของเขาได้