12. ถ้าโรคเรื้อนนั้นลามไปตามผิวหนัง ตามที่ปุโรหิตเห็นก็ปรากฏว่า ลามไปตามผิวหนังทั่วตัวผู้ป่วยตั้งแต่ศีรษะจนเท้า
13. ปุโรหิตต้องตรวจดู ถ้าเรื้อนนั้นแผ่ไปทั่วตัว ให้ปุโรหิตประกาศว่า เขาสะอาดด้วยโรคของเขาแล้วตัวของเขาเผือก เขาสะอาด
14. ถ้ามีเนื้อแผลสดปรากฏขึ้นมาเมื่อไร เขาก็เป็นมลทิน
15. ให้ปุโรหิตตรวจดูที่เนื้อแผลสด และประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เพราะเนื้อแผลสดนั้นทำให้มลทิน เขาเป็นโรคเรื้อน
16. ถ้าเนื้อแผลสดนั้นเปลี่ยนไปอีกกลายเป็นสีขาว ให้เขามาหาปุโรหิต
17. และให้ปุโรหิตตรวจเขา และถ้าโรคนั้นกลายเป็นโรคเผือก ให้ปุโรหิตประกาศว่า คนที่เป็นโรคนั้นสะอาด เขาสะอาด
18. “ถ้าที่ร่างกายของคนใดมีแผลฝีซึ่งหายแล้ว
19. ถ้าที่แผลเป็นนั้นมีสีขาวบวมขึ้นมาหรือมีรอยสีแดงเรื่อๆปรากฏ ก็ให้ผู้นั้นไปสำแดงตัวต่อปุโรหิต
20. และปุโรหิตจะตรวจดู ถ้าปรากฏว่าที่เป็นนั้นลึกกว่าผิวหนังและขนที่ บริเวณนั้นหงอกให้ปุโรหิตประกาศว่า เขาเป็นมลทิน โรคนั้นเป็นโรคเรื้อนมันพุขึ้นมาที่แผลฝี
21. แต่ถ้าปุโรหิตตรวจดูแล้วเห็นว่าขนที่นั่นก็ไม่หงอก และเป็นไม่ลึกกว่าผิวหนัง แต่จาง ให้ปุโรหิตกักตัวเขาไว้เจ็ดวัน
22. ถ้าโรคนั้นลามออกไปในผิวหนัง ก็ให้ปุโรหิตประกาศว่า เขาเป็นมลทิน เขาเป็นโรคแล้ว