20. พระเจ้าตรัสว่า ในวันเหล่านั้นและในเวลานั้น จะหาบาปผิดในอิสราเอลและจะหาไม่ได้เลย จะหาบาปในยูดาห์ก็จะหาไม่ได้เลย เพราะเราจะให้อภัยแก่ชนที่เหลืออยู่เหล่านั้น ผู้ที่เราเหลือไว้ให้
21. พระเจ้าตรัสว่า “จงขึ้นไปสู้แผ่นดินเมราธาอิมและต่อสู้ชาวเมืองเปโขดจงฆ่าเขาและตามทำลายเสียให้สิ้นเชิงและจงกระทำทุกอย่างตามที่เราได้บัญชาเจ้าไว้
22. เสียงสงครามอยู่ในแผ่นดินและการทำลายอย่างใหญ่หลวงก็อยู่ในนั้น
23. ค้อนทุบของแผ่นดินโลกทั้งหมดได้ถูกตัดลงและถูกหักเสียแล้วหนอบาบิโลนได้กลายเป็นความหวาดเสียวท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
24. บาบิโลนเอ๋ย เราวางบ่วงดักเจ้าและเจ้าก็ติดบ่วงนั้นและเจ้าไม่รู้เรื่องเขามาพบเจ้าและจับเจ้าเพราะเจ้าได้ขันสู้กับพระเจ้า
25. พระเจ้าได้ทรงเปิดคลังอาวุธของพระองค์และทรงให้อาวุธแห่งพระพิโรธของพระองค์ออกมาเพราะพระเจ้าจอมโยธา ทรงมีพระราชกิจที่จะกระทำในแผ่นดินแห่งชาวเคลเดีย
26. จงมาต่อสู้กับเธอจากทุกเสี้ยวโลกจงเปิดบรรดาฉางของเธอจงกองเธอไว้เหมือนอย่างกองข้าวและทำลายเสียจนสิ้นเชิงอย่าให้เธอเหลืออยู่เลย
27. จงฆ่าวัวผู้ของเธอให้หมดให้มันทั้งหลายลงไปยังการฆ่าวิบัติแก่มันทั้งหลายเพราะวันเวลาของมันมาถึงแล้วคือเวลาแห่งการลงโทษมัน
28. “ฟังซิ เขาทั้งหลายได้หนีและรอดพ้นจากแผ่นดินบาบิโลน ไปประกาศการแก้แค้นของพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของเราในศิโยน คือการแก้แค้นแทนพระวิหารของพระองค์
29. “จงเรียกนักธนูมาต่อสู้กับบาบิโลน คือบรรดาคนที่โก่งธนู จงตั้งค่ายไว้รอบมัน อย่าให้ผู้ใดหนีรอดพ้นไปได้จงกระทำ กับมันตามการกระทำของมัน จงกระทำแก่มันอย่างที่มันได้กระทำแล้ว เพราะมันจองหองลองดีกับพระเจ้า พระองค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
30. เพราะฉะนั้น คนหนุ่มๆของมันจะล้มลงที่ลานของมัน และทหารของมันทั้งสิ้นจะถูกทำลาย ในวันนั้น พระเจ้าตรัสดังนี้
31. “พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่าผู้จองหองเอ๋ย ดูเถิด เราต่อสู้กับเจ้าเพราะว่าวันเวลาของเจ้ามาถึงแล้วคือเวลาที่เราจะลงโทษเจ้า