9. เจ้าได้ลืมความอธรรมของบรรพบุรุษของเจ้า ความอธรรมของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์ บรรดาความอธรรมของนางสนมและมเหสีของเขาทั้งหลาย ความอธรรมของเจ้าเอง และความอธรรมของภรรยาของเจ้า ซึ่งเขาทั้งหลายได้กระทำในแผ่นดินยูดาห์และในถนน หนทางของกรุงเยรูซาเล็มเสียแล้วหรือ
10. แม้กระทั่งวันนี้แล้วเขาทั้งหลายก็ยังมิได้ถ่อมตัวลง หรือเกรงกลัวหรือดำเนินตามพระธรรมหรือตามกฎหมายของเรา ซึ่งเราให้มีไว้หน้าเจ้าทั้งหลายและหน้าบรรพบุรุษของเจ้า
11. “เพราะฉะนั้น พระเจ้าจอมโยธาพระเจ้าอิสราเอล จึงตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะมุ่งหน้าของเราต่อสู้เจ้าหมายลงโทษ จะตัดยูดาห์ออกเสียให้สิ้น
12. เราจะเอาชนยูดาห์ที่เหลืออยู่ ผู้ซึ่งมุ่งหน้ามาที่แผ่นดินอียิปต์เพื่อจะอาศัยอยู่นั้น และเขาทั้งหลายจะถูกผลาญเสียหมด เขาจะล้มลงในแผ่นดินอียิปต์ เขาจะถูกผลาญด้วยดาบ และด้วยการกันดารอาหาร ตั้งแต่คนเล็กน้อยที่สุดจนถึงคนใหญ่โตที่สุด เขาทั้งหลายจะตายด้วยดาบและด้วยการกันดารอาหาร และเขาจะกลายเป็นคำสาป เป็นที่น่าหวาดเสียว เป็นคำแช่งและเป็นขี้ปาก
13. เราจะต้องลงโทษคนเหล่านั้น ผู้อาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ ดังที่เราลงโทษกรุงเยรูซาเล็มด้วยดาบ ด้วยการกันดารอาหาร และด้วยโรคระบาด
14. จนคนยูดาห์ที่เหลืออยู่ ผู้ซึ่งมาอาศัยในแผ่นดินอียิปต์นั้นจะไม่รอดพ้น หรือเหลือกลับไปยังแผ่นดินยูดาห์ ที่ซึ่งเขาปรารถนาจะกลับไปอาศัยอยู่ เพราะว่าเขาจะไม่ได้กลับไป นอกจากผู้ลี้ภัยบางคน”
15. แล้วบรรดาผู้ชาย ผู้รู้ว่าภรรยาของตัวได้ถวายเครื่องหอมแก่พระอื่น และบรรดาผู้หญิงที่ยืนอยู่ใกล้เป็นที่ชุมนุมใหญ่ คือบรรดาประชาชนผู้อาศัยในปัทโรส ในแผ่นดินอียิปต์ได้ตอบเยเรมีย์ว่า
16. “สำหรับถ้อยคำซึ่งท่านได้บอกแก่เรา ในพระนามของพระเจ้านั้น เราจะไม่ฟังท่าน
17. แต่เราจะกระทำทุกสิ่งที่เราได้บนไว้ คือเผาเครื่องหอมถวายเจ้าแม่แห่งฟ้าสวรรค์ และเทเครื่องดื่มถวายแก่พระนางเจ้า ดังที่เราได้กระทำ ทั้งพวกเราและบรรพบุรุษของเรา บรรดากษัตริย์และ เจ้านายของเรา ในหัวเมืองยูดาห์และในถนนหนทางกรุงเยรูซาเล็ม ทำอย่างนั้นแล้วเราจึงมีอาหารบริบูรณ์และอยู่เย็นเป็นสุข และไม่เห็นเคราะห์ร้ายอย่างใด
18. ตั้งแต่เรางดการเผาเครื่องหอมแห่งเจ้าฟ้าสวรรค์ และเทเครื่องดื่มถวายแก่พระนางเจ้า เราก็ขัดสนทุกอย่าง และถูกผลาญด้วยดาบและด้วยการกันดารอาหาร”